ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR-ECI) เดือน ต.ค.59 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 42.9 จากระดับ 44.2 ในเดือน ก.ย.59 เนื่องจากมีความกังวลเรื่องราคาสินค้าเพิ่มขึ้น หลังราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคปรับตัวสูงขึ้นในเดือน ต.ค.59 ส่งผลต่อเนื่องให้ครัวเรือนเป็นกังวลต่อประเด็นเรื่องค่าใช้จ่าย (ไม่รวมหนี้) มากขึ้นตามไปด้วย
ค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น...กดดันความเชื่อมั่นครัวเรือนเดือนต.ค. 2559
- ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR-ECI) เดือนต.ค. 2559 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 42.9 จากระดับ 44.2 ในเดือนก.ย. 2559 โดยครัวเรือนมีความกังวลเพิ่มขึ้นในสถานการณ์ทางด้านราคาสินค้า หลังราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคปรับตัวสูงขึ้นในเดือนต.ค. ซึ่งส่งผลต่อเนื่องให้ครัวเรือนเป็นกังวลต่อประเด็นเรื่องค่าใช้จ่าย (ไม่รวมหนี้) มากขึ้นตามไปด้วย ในขณะที่ดัชนีสะท้อนมุมมองคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า (3-month Expected KR-ECI) ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับเดิมที่ 44.4 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 สะท้อนให้เห็นว่า ครัวเรือนยังไม่เปลี่ยนแปลงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ซึ่งก็น่าจะส่งผลให้การบริโภคของภาคเอกชนในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปี 2559 ประคองตัวไปได้
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคครัวเรือนในช่วงที่เหลือของปี 2559 น่าจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนต.ค. ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นทั้งในด้านการบริโภค การท่องเที่ยว และการส่งออก แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ทางด้านราคาสินค้าที่จะส่งผลต่อค่าครองชีพของครัวเรือน ทั้งในส่วนของราคาอาหารสดที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจากอุทกภัยในพื้นที่เพาะปลูก และในส่วนของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกภายในประเทศที่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์น้ำมันดิบในตลาดโลก รวมถึงติดตามมติครม. ในเรื่องการปรับค่าจ้างขั้นต่ำภายในประเทศ ซึ่งน่าจะมีผลต่อรายได้ของครัวเรือนในระยะข้างหน้า
ความเชื่อมั่นของครัวเรือนพลิกกลับมาปรับตัวลดลงในเดือนต.ค. 2559 อีกครั้งหลังจากปรับตัวดีขึ้นติดต่อกัน 2 เดือน (ส.ค.-ก.ย.) สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้นของครัวเรือนต่อภาวะการดำรงชีพในปัจจุบัน โดยในเดือนต.ค. นี้ ครัวเรือนกลับมามีความกังวลมากขึ้นในประเด็นเรื่องสถานการณ์ทางด้านราคาสินค้า หลังราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคหลายรายการปรับตัวสูงขึ้น ดังจะเห็นได้จากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปประจำเดือนต.ค. ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.16 จากเดือนก่อนหน้า ในขณะที่สถานการณ์ทางด้านรายได้ของครัวเรือนเดือนต.ค. ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า จึงทำให้ครัวเรือนรู้สึกเป็นกังวลมากขึ้นในประเด็นเรื่องภาระค่าใช้จ่าย (ไม่รวมหนี้สิน) ที่น่าจะสูงขึ้นตามราคาสินค้าที่แพงขึ้นภายใต้กำลังซื้อเท่าเดิม
- ครัวเรือนมีความกังวลมากขึ้นต่อค่าครองชีพในปัจจุบัน สะท้อนจากดัชนีองค์ประกอบที่แสดงมุมมองต่อสถานการณ์ทางด้านราคาสินค้าในเดือนต.ค. 2559 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน มาอยู่ที่ระดับ 37.4 จากระดับ 41.7 ในเดือนก.ย. 2559 หลังสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันหลายรายการปรับตัวสูงขึ้นในเดือนต.ค. ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นราวร้อยละ 3-5 จากเดือนก่อนหน้าตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นจากผลการบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นของประเทศสมาชิกกลุ่มโอเปกในการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบมาอยู่ที่ระดับ 32.5-33.0 ล้านบาร์เรล/วัน (จากระดับ 33.4 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.ย. 2559) เพื่อรักษาเสถียรภาพทางด้านราคา รวมถึงราคาเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มก็ปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ราคาสินค้าที่สูงขึ้นได้ส่งผลให้ครัวเรือนมีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย สะท้อนให้เห็นจากดัชนีองค์ประกอบที่แสดงมุมมองต่อภาระค่าใช้จ่าย (ไม่รวมหนี้สิน) ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 36.0 ในเดือนต.ค. จากระดับ 39.0 ในเดือนก.ย.
- ในขณะที่ค่าใช้จ่ายของครัวเรือนส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการจัดระเบียบทางเท้าของกทม. จากผลสำรวจครัวเรือนที่อาศัยหรือทำงานในกทม. ต่อประเด็นเรื่องการจัดระเบียบทางเท้าบริเวณริมถนนใหญ่ของกทม. ที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. ที่ผ่านมา พบว่า ครัวเรือนส่วนใหญ่ร้อยละ 71.2 มองว่า มาตรการจัดระเบียบทางเท้าไม่ส่งผลกระทบต่อภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือน เนื่องจากครัวเรือนสามารถหาซื้อสินค้าทดแทนที่ราคาใกล้เคียงกันตามร้านค้าได้ ในขณะที่ร้อยละ 14.3 ของครัวเรือนที่ทำการสำรวจเปิดเผยว่ามีค่าใช้จ่ายน้อยลง เนื่องจากไม่มีแผงลอยริมทางจูงใจให้ซื้อระหว่างทางและโดยมากสินค้าที่วางขายริมทางเป็นสินค้าไม่จำเป็น เพียงร้อยละ 14.5 ของครัวเรือนที่มองว่าการจัดระเบียบทางเท้าส่งผลให้ค่าใช้จ่ายของครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น เพราะมองว่าสินค้าทดแทนตามร้านค้ามีราคาสูงกว่าที่ขายตามแผงลอยริมทาง
ผลกระทบของมาตรการจัดระเบียบทางเท้าต่อค่าใช้จ่ายของครัวเรือน
- ในขณะที่ดัชนีสะท้อนมุมมองคาดการณ์ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า (3-month Expected KR-ECI) ยังคงทรงตัว ที่ระดับ 44.4 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 สะท้อนว่า ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่เข้ามาเพิ่มเติมหรือลดทอนความกังวลของครัวเรือนต่อภาวะการครองชีพในช่วงปลายปี 2559 ไปจนถึงต้นปี 2560 ซึ่งมุมมองคาดการณ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงของครัวเรือนนี้น่าจะส่งผลให้การบริโภคของภาคเอกชนในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้สามารถประคองตัวไปได้
โดยสรุป ความเชื่อมั่นของครัวเรือนต่อภาวะการครองชีพในปัจจุบันปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากครัวเรือนมีความกังวลมากขึ้นในประเด็นเรื่องสถานการณ์ทางด้านราคาสินค้าและภาระค่าใช้จ่าย (ไม่รวมหนี้) อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า สถานการณ์ราคาสินค้ายังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในระยะข้างหน้า ทั้งในส่วนของราคาอาหารสด โดยเฉพาะผักสดหลายชนิดที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพ.ย. หลังน้ำท่วมในหลายพื้นที่เพาะปลูก รวมถึงในส่วนของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศที่ยังคงผันผวนตามสถานการณ์น้ำมันดิบในตลาดโลก ซึ่งผลการประชุมโอเปกอย่างเป็นทางการ (ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ย. 2559) จะเป็นตัวตัดสินทิศทางน้ำมันดิบในตลาดโลกช่วงถัดจากนี้ไป ขณะที่ราคาเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มน่าจะค่อยๆ ผ่อนคลายหลังอุปทานที่เพิ่มขึ้นมากเพียงพอที่จะรองรับกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR Household Economic Condition Index หรือ KR-ECI) จัดทำขึ้นโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย เพื่อให้เป็นเครื่องชี้ที่สะท้อนความรู้สึกของครัวเรือนที่มีต่อภาวะการครองชีพทั้งในปัจจุบัน และในช่วง 3 เดือนข้างหน้า โดยค่าดัชนีที่สูงกว่าระดับ 50 หมายถึง ครัวเรือนส่วนใหญ่มองว่า ภาวะการครองชีพ “ดีขึ้น” ในทางตรงกันข้าม ค่าดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 หมายถึงภาวะการครองชีพ “แย่ลง”
ข่าวเด่น