สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +4.83 จุด เก็งผลบวกจากนโยบายนาย Trump
SET แกว่งแดนบวกจำกัดในกรอบ 1513-22 ตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นทั่วโลก แม้ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ พลิกล็อก แต่คาดหวังนโยบายลดภาษีและลดกฎระเบียบของ Trump จะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจ-ศก.สหรัฐฯ ต่างชาติขายสุทธิ 2.04 พันลบ. เป็นวันที่ 14 ติดต่อกัน แต่พลิก Long S50 Futures 7,836 สัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์-ไซด์เวย์ดาวน์ ระวังเงินลงทุนอาจโยกกลับสหรัฐฯ
หุ้นโลกเมื่อคืน (10 พ.ย.) เริ่มปิดแตกต่างกัน หุ้นสหรัฐฯ (DJIA) ขึ้น 4 วันติด ปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่หุ้นยุโรปร่วงจากแรงขายทำกำไร ทั้งนี้นโยบายด้านต่าง ๆ ของ Trump สร้างแรงเก็งกำไรหลักๆ ในหุ้นแบงก์, ประกัน และทรัพยากรอุตสาหกรรม จากนโยบายลดภาษี, ผ่อนคลายกฎระเบียบ และการลงทุนสร้างสาธารณูปโภค คาดจะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจ-ศก.สหรัฐฯ แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับกระแสเงินทุนที่อาจไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ จากแนวโน้มการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฯ และดบ.สหรัฐฯ อาจขึ้นเร็วกว่าคาด ล่าสุด US Dollar Index ขึ้นทดสอบระดับ 99 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบ 9 เดือน ขณะที่ 10Y US Bond Yield พุ่งแรง 4 วันติด จากสัปดาห์ที่แล้วที่อยู่เพียง 1.78% อยู่ที่ 2.15% สูงสุดในรอบ 10 เดือน ด้านราคาน้ำมันและทองคำขยับลง มอง SET แกว่งไซด์เวย์-ไซด์เวย์ดาวน์ จากแรงกดดันกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายมีความผันผวน แนวรับ 1510, 1495-1500 และแนวต้าน 1520-22 อนึ่ง JTS ขยายเวลาติด Cash Balance ถึง 1 ธ.ค. / เราคาดหุ้น AUCT, MTLS ติด Cash Balance เย็นนี้
กลยุทธ์การลงทุน : ยังมอง upside จำกัด, ขึ้นเน้นขาย-เทรดดิ้งได้แค่ระยะสั้น
เรายังมอง upside SET มีจำกัด จากแรงกดดันกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายผันผวน และต้องติดตามผลกระทบจากการเปลี่ยนนโยบายของสหรัฐฯ เพราะฉะนั้น ยังแนะนำการขายลดพอร์ตเป็นหลัก ส่วนการซื้อเก็งกำไร เน้นเพียงระยะสั้น โดยใช้กรอบเทรดดิ้ง 1490-1520 และมีจุด Stop Loss ที่ 1480
ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Picks BLA – คาดนโยบาย Trump ที่จะลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายจะสร้างแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและดบ.ขยับขึ้นได้เร็วกว่าเดิม โดย 10Y US Bond Yield พุ่งแรง 4 วันติด มาที่ 2.15% สูงสุดในรอบ 10 เดือน, มอง BLA ได้ประโยชน์จากดบ.ที่สูงขึ้น โดยราคาหุ้นมี Correlation ดบ.สหรัฐฯ และไทยสูงถึง 84% และ 74% ตามลำดับ, เป้าพื้นฐาน 55 บ. / หุ้นคาดงบ Q3 ดีมี upside สูง โดยกลุ่มกำไรพลิกฟื้น-โตมาก (Growth > 50%) ชอบ AAV, CK, KAMART, SPRC, WHA / กำไรโต > 20% ชอบ BCH, CENTEL, DRT, LPH, PYLON, QH, UNIQ / หุ้นคาดกำไรครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรกและปีหน้าโตต่อ ANAN, BEM, BLA, ILINK, JWD, KAMART, SAWAD, SEAFCO, SPA, TPIPL, TTCL, UNIQ / หุ้นพื้นฐานอิงงานประมูลภาครัฐ ชอบ BEM, CK, UNIQ, SEAFCO, ILINK, LOXLEY / หุ้นปันผลสูง ชอบ BJCHI, INTUCH, MC, PS, TCAP
หุ้น Weekly GURU ซื้อ BANPU* (เป้าสั้น 20.5 บ.) / ถือ BEM (8.1 บ.), BJC (54 บ.), BLA (53.5 บ.) / ถึงเป้าทำกำไร CK (+5.1%) / ขายตัดขาดทุน DTAC (-3.1%)
หุ้นเด่น พ.ย. (Smart Tactics) BEM, BJC, BLA, CK, GFPT, GLOBAL, TPBI, VNG
ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
11 พ.ย. JP ดัชนีชี้วัดภาวะอุตฯ (Tertiary Industry Index) ญี่ปุ่นใน ก.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิตญี่ปุ่นใน ต.ค.
US งบประมาณรายเดือนสหรัฐฯ ใน ต.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ใน พ.ย. (เบื้องต้น)
14 พ.ย. JP, EU ผลผลิตภาคอุตฯ และอัตราใช้การผลิตญี่ปุ่นใน ก.ย., ผลผลิตภาคอุตฯ สหภาพยุโรปใน ก.ย.
CH ยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตฯ จีนใน ต.ค.
ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research
ข่าวเด่น