บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ("MC") ประกาศยอดขายสำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2559 ที่ 3,031 ล้านบาท เติบโต 16.3% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าท่อนบนที่หลากหลายขึ้น จากกิจกรรมส่งเสริมการขายรายสัปดาห์ และจากการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในปีที่ผ่านมา โดยบริษัทมีกำไรสุทธิ 525 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.0% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สำหรับไตรมาส 3ปี 2559 บริษัทรับรู้ยอดขาย 880 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 132 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 9.3% และ 17.3% ตามลำดับ
นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า "สำหรับไตรมาส 3 บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ โดยผลักดันให้มีสินค้าเสื้อผ้าท่อนบนแบบใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อทีเชิ้ต เสื้อแจ๊คเก็ต และเสื้อโปโล เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและความสามารถในการตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคผ่านกิจกรรมส่งเสริมการขายที่คุ้มค่าและน่าสนใจโดยเน้นที่จุดจำหน่ายของบริษัทเอง ส่งผลให้ยอดขายต่อร้านเดิมในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 9.8% และสำหรับรอบเก้าเดือนเพิ่มขึ้น 14.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน"
"สำหรับเก้าเดือนแรกปี 2559 บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวม 53.6% ลดลงจาก 57.1% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนจากกิจกรรมส่งเสริมการขายที่จัดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค คืนกำไรให้ลูกค้า และเพื่อลดสินค้าคงคลัง อย่างไรก็ดีบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นรายไตรมาสที่ดีขึ้น โดยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 55.0% ในไตรมาส 3 จาก 54.5% ในไตรมาส 2 และ 51.8% ในไตรมาส 1 จากการปรับเปลี่ยนรายการส่งเสริมการขายให้เหมาะสมมากขึ้น ทั้งนี้ในไตรมาส 3 ปี 2559บริษัทมีกำไรสุทธิ 132 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 17.3% ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สำหรับเก้าเดือนแรกปี 2559 บริษัทมีกำไรสุทธิ 525 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.0% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน"
"โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 บริษัทมีจุดจำหน่ายรวม 873 แห่ง เพิ่มขึ้นสุทธิ 7 แห่งจากสิ้นปีที่แล้ว แบ่งเป็นร้านค้าปลีกของตนเอง287 แห่ง ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ 555 แห่ง รถโมบายเคลื่อนที่ 6 คัน และจุดจำหน่ายในต่างประเทศอีก 25 แห่งในเมียนมาร์ ลาว เวียดนาม และกัมพูชา"
นางสาวแสงแข หาญวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการตลาด กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัทได้ออกแบรนด์สินค้าใหม่ "UP" ซึ่งเป็นแบรนด์ชุดกีฬาคุณภาพดีที่สามารถใส่ได้ทั้งชายและหญิง ด้วยรูปแบบที่สวมใส่ง่าย สามารถmix & match กับเสื้อผ้าอื่น เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ หรือสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ตาม Slogan "Unlimited Performance" โดยเลือกใช้วัตถุดิบพิเศษ Hydrophilic ซึ่งโครงสร้างผ้าประกอบด้วยเส้นใยสังเคราะห์ที่ทำให้รู้สึกแห้งสบายขณะสวมใส่ และผ่านกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานสากล"
"ทั้งนี้ในไตรมาส 4 ตามปกติจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีเนื่องจากเป็นฤดูกาลที่ผู้บริโภคจะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นในช่วงปลายปีในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ แต่ในไตรมาส 4 ปีนี้เป็นช่วงเวลาที่บริษัทต้องปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับความต้องการถวายอาลัยของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ ซึ่งมีความต้องการเสื้อผ้าสีดำ สีขาว และสีเข้มเพิ่มมากขึ้น การจัดเตรียมสินค้าดังกล่าวให้เพียงพอกับความต้องการและการบริหารสต๊อคสินค้าที่เพิ่มเข้ามาจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยบริษัทต้องทำควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมที่เหมาะสมกับภาวการณ์ โดยบริษัทยังคงเป้าการเติบโตของยอดขายปีนี้ไว้ที่ 15% และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมทั้งปี2559 จะอยู่ในระดับประมาณ 53-54% ลดลงจากเดิมที่คาดไว้ที่ประมาณ 56%-57% ซึ่งเป็นผลจากการปรับกลยุทธ์ในไตรมาสสุดท้ายของปี"
นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเ พิ่มเติมว่า "สำหรับธุรกิจนาฬิกาซึ่งดำเนินการโดยบริษัท ไทม์ เดคโค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ("TDC") ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 51% นั้น ได้มีการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการและปรับแผนธุรกิจใหม่ในไตรมาส 4 โดยเริ่มปรับสินค้าให้ตอบโจทย์เทรนด์ของผู้บริโภคมากขึ้น มีรายการส่งเสริมการขายที่น่าสนใจและคุ้มค่ามากขึ้น ตลอดจนเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่หรือลูกค้าใหม่ เช่น การขายผ่านช่องทางออนไลน์ของ MC (www.mcshop.com) การขายลูกค้าองค์กร เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินงานของธุรกิจนาฬิกาจะมีทิศทางที่ดีขึ้นในปี 2560"
ข่าวเด่น