วันนี้ (11พ.ย.59) เวลา 10.00 น. ณ กระทรวงการคลัง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมเพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานบริหารจัดการด้านงบประมาณต่าง ๆ และโครงการแผนงาน ของกระทรวงการคลัง ตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี พร้อมมอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติให้แก่ผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอิสระ หน่วยงานในกำกับ และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลัง เพื่อนำไปปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีความเป็นเอกภาพและเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยมี นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอิสระ หน่วยงานในกำกับ ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลัง ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังรายงานผลการดำเนินงานและแนวทางมาตรการที่จะดำเนินการในอนาคตของกระทรวงการคลัง จากปลัดกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะการดำเนินงานเกี่ยวกับยุทธศาสตร์กระทรวงการคลังตามยุทธศาสตร์ชาติ ภายใต้วิสัยทัศน์ “เสาหลักทางการคลังและเศรษฐกิจ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ประกอบด้วย 1) การลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เช่น มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของผู้มีรายได้น้อย (ตำบลละ 5 ล้านบาท) มาตรการเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและเพิ่มขีดความสามารถของภาคเกษตร (ประกันภัยข้าวนาปี สินเชื่อ 1 ตำบล 1 SMEs) โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวประชารัฐ (กองทุนหมู่บ้านละ 500,000 บาท) 2) เพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุน มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมให้บริษัทใหญ่ช่วยบริษัทเล็กและการลงทุนในชนบท มาตรการยกระดับการจัดอันดับ Ease of Doing Business กองทุนเพิ่มขีดความสามารถ (10 อุตสาหกรรม S-Curve) 3) รักษาความยั่งยืนทางการคลัง การดำเนินนโยบายการคลังการเงินเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุของไทย (Senior complex Reverse Mortgage กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ การจ้างงานคนชรา) 4) บริหารงานอย่างมี ธรรมาภิบาลและเป็นมืออาชีพ เช่น การทรวงการคลังคุณธรรม MOU ร่วมระหว่างกระทรวงการคลังกับ ปปช.และปปท. เป็นต้น
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกำกับกระทรวงการคลังที่ได้ช่วยกันทำงานตามนโยบายรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาจนเกิดผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ทั้งนี้กระทรวงการคลังถือเป็นต้นทางของการดำเนินการทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณของประเทศที่จะต้องดำเนินการบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าสูงสุดต่อประเทศชาติ จึงขอเป็นกำลังใจให้กับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกคนในการปฏิบัติหน้าที่และทำงานร่วมกับรัฐบาลในระยะต่อไป เพื่อทำให้ประเทศชาติเข้มแข็งนำไปสู่การมีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์สามารถขับเคลื่อนประเทศได้ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานเกิดผลเป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำถึงการบริหารจัดการและจัดทำงบประมาณในด้านต่าง ๆ ว่า ต้องมีการกำหนดการแผนงาน/โครงการให้ชัดเจนแบ่งเป็นแผนงานประจำตามหน้าที่หรืองาน Function กับแผนงานตามนโยบายของรัฐบาลหรือ Agenda โดยให้ปรับลดงบประมาณที่เป็นแผนงานประจำหรือ Function ลงโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าตอบแทนหรือเงินเดือนของบุคลากร ฯลฯ นำมาปรับไปดำเนินการในส่วนของแผนงานตามนโยบายหรือ Agenda ให้มากขึ้นโดยเฉพาะงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ และการปฏิรูปประเทศ เพื่อส่งเม็ดเงินและสร้างรายได้ลงไปสู่ระดับพื้นที่โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ และให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย โปร่งใส่ เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ส่งผลกระทบต่อวินัยทางการเงินการคลัง รวมทั้งให้กระทรวงการคลังบูรณาการงบประมาณแผนงาน/โครงการสำคัญที่เป็นงานตามนโยบายรัฐบาลหรือ Agenda กับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ทั้งนี้ การดำเนินโครงการต่าง ๆ ต้องมีการทำ “ทำประชาสังคม” ร่วมกับประชาชนในพื้นที่ก่อนทุกครั้งเพื่อให้การดำเนินการหรือโครงการต่าง ๆ ตรงกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนและสังคมได้รับทราบอย่างกว้างขวางเพื่อจะได้เข้าใจถึงความจำเป็นต่อการดำเนินโครงการดังกล่าว อันจะทำให้ประชาชนเกิดความไว้วางใจและพร้อมให้ความร่วมมือสนับสนุนต่อการดำเนินโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ และทำให้การดำเนินการเกิดผลสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังเตรียมความพร้อมและมาตรการรองรับความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันและอนาคต ตลอดจนสถานการณ์ต่าง ๆ ของโลกที่จะเกิดขึ้น โดยยึดหลักการดำเนินการทางการทูตอย่างสมดุลกับประเทศต่าง ๆ ทั้งประเทศมหาอำนาจและประเทศในภูมิภาค พร้อมขอให้กระทรวงการคลังและเจ้าหน้าที่ทุกคนน้อมนำหลักทรงงานและแนวทางตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไปปฏิบัติด้วย
ข่าวเด่น