สภาวะตลาดวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559
ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,250.80-1,265.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,050 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 350 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,400 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ16 อยู่ที่ 21,150 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 330 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,480 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.17 น.ของวันที่ 11/11/16)
แนวโน้มวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะยาวปรับตัวขึ้นเพิ่มขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบเกือบ 10 เดือน หลังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าภายใต้การการบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อาจกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐด้วยนโยบายทางด้านการคลัง และจะส่งเสริมการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ นโยบายต่างๆของนายทรัมป์ที่จะเพิ่มงบรายจ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐจะทำให้และอัตราเงินเฟ้อและการจ้างเพิ่มขึ้น ซึ่งนั้นช่วยทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ง่ายขึ้น ยิ่งสร้างแรงดึงดูดให้นักลงทุนเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น จนดอลลาร์มีทิศทางแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นในสหรัฐเพราะที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ จนหุ้นกลุ่มธนาคารในสหรัฐทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางปี 2008 ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นสู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 52 สัปดาห์
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนในตลาดทองคำจับตาดูกระแสเงินทุนว่าจะมีการไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นทองคำ ขณะที่กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกได้ลดสัดส่วนการถือครองทองคำของกองทุนลดลง 13.345 ตัน สู่ระดับ 941.681 ตัน ในวันพุธที่ผ่านมา เพราะแนวโน้มนโยบายเศรษฐกิจของนายทรัมป์น่าจะดึงเงินทุนให้ไหลกลับเข้าไปยังสหรัฐมากขึ้น อย่างไรก็ตามราคาทองคำภายในประเทศยังได้รับแรงหนุน จากค่าเงินบาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าไปมากสุดที่ 35.42 ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 1 เดือน เบื้องต้นประเมินแนวรับบริเวณ 1,241 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้จะเกิดแรงดีดตัวขึ้น โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,275-1,283 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับได้มีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะอ่อนลงสู่โซนแนวรับถัดไป
กลยุทธ์การลงทุน
วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,241 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ราคาทองคำมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นไปได้ โดยหากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,275-1,283 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ราคาทองคำอาจมีย่อตัวลงมาเพื่อสร้างฐานของราคา โดยประเมินแนวรับที่ 1,241 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวหากราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับถัดไปบริเวณ 1,227 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ยังคงแนะนำลงทุนระยะสั้นโดยให้รอจังหวะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดดีดตัว
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,241 (20,720บาท) 1,227 (20,480บาท) 1,208 (20,160บาท)
แนวต้าน 1,275 (21,290บาท) 1,283 (21,420บาท) 1,294 (21,610บาท)
GOLD FUTURES (GFZ16)
แนวรับ 1,241 (20,870บาท) 1,227 (20,630บาท) 1,208 (20,320บาท)
แนวต้าน 1,275 (21,440บาท) 1,283 (21,580บาท) 1,294 (21,760บาท)
ข่าวเด่น