ปตท.เน้นเพิ่มประสิทธิภาพส่งผล 9 เดือนแรก ปี 59 ผลประกอบการดีขึ้นผ่านกลยุทธ์ “ทำทันที” (3 Nows: Do Now, Decide Now, Shape Now) ของกลุ่ม ปตท. สามารถลดต้นทุนดำเนินงาน บริหารสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ และ ผลักดันยอดขายค้าปลีก non oil ทำให้กำไรสุทธิ 9 เดือนแรก ปี 59 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในรอบการดำเนินงาน 9 เดือนแรก ประจำปี 2559 กลุ่ม ปตท.ได้ดำเนินตามแผนกลยุทธ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ตกต่ำในช่วงที่ผ่านมา ประกอบด้วย การดำเนินการที่ทำทันที (Do Now) หาโอกาสการลงทุนต่อเนื่องในธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ (Decide Now) และ การแสวงหาธุรกิจใหม่เพื่อความยั่งยืน (Shape Now) โดยทำทันทีผ่าน “โครงการเพิ่มผลผลิต" (Productivity Improvement Program) ต่างๆ เช่นการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต (Debottleneck) ของโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ทำให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ออกมาได้มากขึ้น การลดต้นทุน การบริหารสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดซื้อพัสดุ/เครื่องจักร/อุปกรณ์ร่วมกับหน่วยงานในกลุ่ม ปตท. การเพิ่มยอดขายในธุรกิจ non oil เช่น กาแฟอเมซอน เป็นต้น ส่งผลให้ 9 เดือนแรก ปี 2559 ผลการดำเนินงานของ ปตท. มีกำไรสุทธิ 40,067 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20,827 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยตามสัดส่วนที่ ปตท. ถือหุ้น นั้นดีขึ้นจากการปฏิบัติตามนโยบายลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพเช่นกัน โดย บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ประสบความสำเร็จกับโครงการ “SAVE to be SAFE” (เซฟทูบีเซฟ) ซึ่งให้ความสำคัญกับการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นควบคู่กับการเพิ่มรายได้ ในขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นก็มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีจากกำไรขั้นต้นต่อหน่วยของผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยตามสัดส่วนที่ ปตท.ถือหุ้นนั้นมีกำไรสุทธิ 35,455 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34,947 ล้านบาท
ดังนั้น ปตท.และบริษัทย่อยจึงมีกำไรสุทธิ 75,522 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวของปีก่อน 55,774 ล้านบาท ในขณะที่ งบดุล ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 นั้น ปตท.และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 2,114,468 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 982,425 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 1,132,043 ล้านบาท
ข่าวเด่น