เมื่อวันที่ 13 พ.ย. นายนพดล กรรณิกา ประธานชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อวิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง "ผลเลือกตั้งสหรัฐ สะท้อนความคิดไทย ประชาธิปไตยของไทย" โดยสำรวจความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 1,199 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 5-12 พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่าประชาชนร้อยละ 89.2 ระบุว่าติดตามข่าวสารการเมืองเป็นประจำทุกสัปดาห์ ร้อยละ 72.8 ทราบข่าวนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ขณะที่ร้อยละ 70.9 ทราบข่าวการก่อม็อบประท้วง ของชาวอเมริกันต่อต้านนายทรัมป์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ประชาชนร้อยละ 57.2 ระบุว่าไม่เสียความเชื่อมั่นต่อระบอบประชาธิปไตย แม้เห็นการชุมนุมประท้วงต่อต้าน นายทรัมป์ที่คนอเมริกันรวมตัวกันตามเมืองต่างๆ ของสหรัฐฯ ขณะที่ร้อยละ 42.8 เสียความเชื่อมั่น
ประชาชนร้อยละ 88.8 ระบุว่าชาวอเมริกันควรให้โอกาสนายทรัมป์ทำงานไปก่อน เพราะนายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งถูกต้องตามกฎหมายของระบอบประชาธิปไตยสหรัฐฯ และคนไทยร้อยละ 77.9 ระบุว่ารักประชาธิปไตยที่ประเทศไทยเป็นอยู่ในเวลานี้มากถึงมากที่สุด นอกจากนี้ประชาชนร้อยละ 82.3 ระบุว่าไทยควรเป็นประชาธิปไตยอย่างที่เป็นอยู่ในเวลานี้ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)
สำหรับความคิดเห็นต่อแนวคิดการขึ้นเงินเดือนให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ส.ส. ส.ว. และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อป้องกันทุจริตคอร์รัปชั่นนั้น พบว่าประชาชนร้อยละ 60.3 ไม่เห็นด้วย ถึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ขณะที่ร้อยละ 39.7 เห็นด้วยถึงเห็นด้วยอย่างยิ่ง
เมื่อถามถึงการเปรียบเทียบความคุ้มค่าของเงินเดือนนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งกับ รัฐบาล และ คสช. ในการทำงานคุ้มค่ากับเงินเดือนที่ได้รับ พบว่าส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 61.3 ระบุว่า รัฐบาล และ คสช. ทำงานได้คุ้มค่ากับเงินเดือนที่ได้รับมากกว่านักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ที่สำคัญคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 73.4 เห็นด้วยที่ว่า คนที่มาเป็นนักการเมือง ถ้ามีนิสัยขี้โกง ไม่ว่าขึ้นเงินเดือนให้เท่าไรก็โกง
ข่าวเด่น