นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยการพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าจะมีผู้ป่วยโรคหัดเพิ่มขึ้น เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ซึ่งโรคนี้ติดต่อได้ง่ายในช่วงอากาศหนาวเย็น
โรคหัดพบมากในเด็ก สามารถติดต่อได้ง่ายมากโดยการไอ จาม หรือพูดคุยกันในระยะใกล้ชิด ทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนรุนแรงในเด็กเล็ก หญิงมีครรภ์ และผู้ที่มีภูมิคุมกันบกพร่อง โดยเฉพาะการอยู่ในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก อาจทำให้มีโอกาสติดต่อได้ง่ายกว่าปกติ
จากการเฝ้าระวังตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา มีรายงานผู้ป่วยโรคหัด 1,352 ราย (อัตราป่วย 2.07 ต่อประชากรแสนคน) จาก 66 จังหวัด ไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งในปีนี้มีจำนวนผู้ป่วยสูงกว่าปีที่ผ่านมา โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานผู้ป่วยโรคหัดเป็นกลุ่มก้อน 2 เหตุการณ์ คือ เหตุการณ์แรกพบผู้ป่วยในบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด มีผู้ป่วย 8 ราย และเหตุการณ์ที่สองเป็นบุคลากรทางการแพทย์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.นครนายก มีผู้ป่วยมากกว่า 30 ราย
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้ที่มีโรคประจำตัว สำหรับวิธีป้องกันตนเอง คือ “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด" ดังนี้ 1.ปิด...ปิดปากปิดจมูกเมื่อไอจาม 2.ล้าง...ล้างมือบ่อยๆ 3.เลี่ยง...หลีกเลี่ยงคลุกคลีกับผู้ป่วย และ 4.หยุด...เมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมในสถานที่แออัด เมื่อเป็นโรคหัด หรือสงสัยว่าเป็นโรคหัดควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย และเก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ เด็กและบุคลากรทางการแพทย์ที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วยโรคหัด ควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทรสายด่วน กรมคร.ที่ 1422
ข่าวเด่น