MTS Gold Research | บทวิเคราะห์ราคาทองคำ (ภาคเช้า)(14 พ.ย.59)
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วรุนแรงในคืนวันศุกร์จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จากการที่ตลาดการเงินคาดว่าจะมีการลงทุนจากภาครัฐสูงขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดหุ้นมากขึ้น และขายสินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ ทองคำ และพันธบัตร ออกมา ซึ่งหนุนให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเป็นประวัติการณ์ ส่วนค่าเงินบาทเองอ่อนค่าลงจากระดับ 35.35 บาท/ดอลลาร์ สู่ระดับ 35.45 บาท/ดอลลาร์ และทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 5 เดือน ในคืนวันศุกร์ที่ระดับ 1,220 เหรียญ ส่วนกองทุน SPDR ขายทองคำออกมาในคืนวันศุกร์กว่า 7.12 ตัน นอกจากนี้นักลงทุนคาดว่าเฟดน่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในการประชุมเดือน ธ.ค. นี้ เนื่องจากสัญญาณเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นในคืนวันศุกร์เช่นเดียวกัน ในค่ำคืนนี้ยังไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญใดๆ
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,250 เหรียญ ทำให้แนวโน้มระยะสั้นและระยะกลางเข้าสู่แนวโน้มทิศทางขาลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิด Sell Stop ตามลงมาอย่างหนักและหลุดระดับแนวรับระยะยาวที่ 1,230 เหรียญ และเช้านี้เองก็ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง คาดว่าแนวรับถัดไปอยู่ที่ระดับ 1,200 เหรียญ และมีแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,180 เหรียญ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,240 เหรียญ ส่วนราคาทองคำไทยปรับตัวลดลงในวันเสาร์กว่า 350 บาท/บาททองคำ อยู่ที่ระดับ 20,600 -20,700 บาท/บาททองคำ โดยคาดว่าแนวรับถัดไปของราคาทองคำไทยจะอยู่ที่ระดับ 20,300 บาท/บาททองคำ และแนวต้านที่ 20,800 บาท/บาททองคำ ในขณะที่ค่าเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า คาดแกว่งตัวในกรอบ 35.30- 35.55 บาท/ดอลลาร์ ในวันนี้
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ปรับเป็นแนวโน้มทิศทางขาลง ปิดสถานะ Long และ เปิดสถานะ Short เมื่อมีโอกาส นักลงทุนที่ถือสถานะ Long ให้ทำ Stop Loss และไม่ควรทำการซื้อเฉลี่ย ควรลดพอร์ตการลงทุนลงและลดสถานะให้ทัน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
หาจังหวะ Stop Loss และลดพอร์ทการลงทุน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
หาจังหวะเปิดสถานะเพิ่มตามทิศทางแนวโน้มขาลง
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
หากถือ Long Position ให้หาจังหวะทำ Stop Loss ออกไป
Gold Futures Z16 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,900 บาท
Gold Futures G17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,680 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,980 บาท
ข่าวเด่น