อิมแพ็ค โกรท รีท ประกาศผลประกอบการผลรอบผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2’2559/2560 (กรกฏาคม – กันยายน 2559) มีรายได้รวมอยู่ 539 ล้านบาท กำไรสุทธิ 301 ล้านบาท พร้อมจ่ายปันผลครั้งที่2 ที่อัตรา 0.17 บาทต่อหน่อย รวมมูลค่า 252 ล้านบาท เผยต่างชาติเข้าลงทุนต่อเนื่อง หลังถูกเข้าคำนวณใน FTSE SMALL CAP INDEX
นางสาววันเพ็ญ มุ่งเพียรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็ค โกรท (IMPACT GROWTH REIT) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานสำหรับรอบไตรมาสที่ 2 ของปี 2559/2560 รอบระยะเวลาเดือนกรกฏาคม–กันยายน 2559 โดยมีรายได้ทั้งหมดเท่ากับ 539 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการพื้นที่ 535 ล้านบาท และรายได้อื่นและดอกเบี้ย 3.7 ล้านบาท เติบโต 7% โดยรายได้ของกองทรัสต์ฯปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากมีงานจากภาครัฐบาลที่จัดเพิ่มขึ้นพร้อมทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมยังคงใช้บริการต่อเนื่องในไตรมาสนี้ โดยเฉพาะอัตราการเช่าพื้นที่ของอาคารอิมแพ็ค ฟอรั่มที่เพิ่มสูงขึ้นเป็น 28.5% จากงานมหกรรมหนังสือ Big Bad Wolf ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมาก และอาคารอิมแพ็คเอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 1-8 ที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 69.1%จากงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ จึงส่งผลให้อัตราการใช้พื้นที่เฉลี่ยในไตรมาสนี้อยู่ที่ 56.1% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ระดับ 52.5%
สำหรับค่าใช้จ่ายของกองทรัสต์ฯนั้น สามารถบริหารจัดการได้ดีตามมาตรฐานอย่างต่อเนื่องทำให้ต้นทุนการให้บริการพื้นที่ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจที่อัตรา 13% ซึ่งต่ำลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนเป็นหลอดไฟอาคารเป็น LED และมีอัตราค่าใช้จ่ายในการบริหารงานลดลงเป็น 8% ของรายได้จากการให้บริการ มีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ในรอบไตรมาสแรกของทรัสต์ฯ ที่ 87% สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงส่งผลให้กองทรัสต์ฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 301 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 56% ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ระดับ 50-55% ทั้งนี้สำหรับรายได้ 6 เดือนของกองทรัสต์ ฯ เท่ากับ 1,027 ล้านบาท และ กำไรสุทธิ 554 ล้านบาท และมีอัตราการใช้พื้นที่เฉลี่ย 6 เดือนเท่ากับ 51%
นางสาววันเพ็ญ กล่าวว่า ทางคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ครั้งที่ 2 ให้แก่ผู้ถือหน่วย ในอัตราหน่วยละ 0.17 บาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลต่อหุ้น (Dividend Payout) เท่ากับ 85% รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 252 ล้านบาท มีกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยที่มีสิทธิ์รับเงินปันผลวันที่ 24 พฤศจิกายน 2559 และกำหนดจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 9 ธันวาคม 2559 โดยการปันผลครั้งนี้เป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 2 ของผลการดำเนินงานปี 2559/2560
ล่าสุด ทางกองทรัสต์ฯ ได้รับการคำนวณเข้าอยู่ในดัชนี FTSE World Small Cap. และมีสัดส่วนนักลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 3% ของผู้ถือหน่วยทรัสต์ทั้งหมด นางสาววันเพ็ญเสริมว่า “ ที่ผ่านมากองทรัสต์ฯ ได้ทำการโรดโชว์ในประเทศญี่ปุ่น และสิงคโปร์ และได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี โดยนักลงทุนให้ความสนใจในด้านกองทรัสต์ฯ เป็นกองถือกรรมสิทธิ์สมบูรณ์ (Freehold) มีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีความสม่ำเสมอในการจ่ายปันผลของกองทรัสต์ฯ ในทุกไตรมาส และเมื่อเทียบอัตรา Dividend Yield ของกองรีทในเอเชียแปซิฟิค ต้นปี – กันยายน 2559 จากข้อมูลของ FTSE, ERPA และ NAREIT พบว่าเท่ากับ 3.28% ซึ่งเมื่อเทียบกับผลตอบแทนของIMPACT ที่อยู่ในระดับ 4.78% ถือว่า IMPACT ให้ผลตอบแทนเงินปันผลที่ดีกว่าผลตอบแทนของกองรีทในภูมิภาค”
ข่าวเด่น