ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วันศุกร์ที่ผ่านมา เกิดการปรับฐานหลุดแนว 1,500 จุดอีกครั้ง สอดคล้องกับภูมิภาคเอเชียที่เงินทุนต่างชาติไหลออกทั้งตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ ส่งผลให้หุ้น Big Cap เผชิญกับแรงขายหนาแน่นขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม ICT และกลุ่มธนาคาร ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 19.73 จุด มาอยู่ที่ 1,494.53 จุด มูลค่าการซื้อขาย 76,733 ล้านบาท
ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 15 เร่งขึ้นเป็น 3,744 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures มากถึง 23,605 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 5 สูงถึง 26,973 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- เงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้หนาแน่นทั่วเอเชียเกิดใหม่
- ติดตามการเคลื่อนไหวค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อประเมินทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติ
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 5)
การเคลื่อนย้ายเงินทุนเป็นจุดที่น่าสนใจ เพราะทั้งตลาดหุ้นเอเชีย และตลาดหุ้นยุโรปปรับฐานลง ตลาดตราสารหนี้ในเอเชียและยุโรปปรับตัวลงแรง (ผลตอบแทนขยับขึ้น) และราคาทองคำล่วงหน้าปรับตัวลงเช่นกัน โดยเงินทุนเลือกที่จะถือเป็นเงินสด สะท้อนได้จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าต่อเนื่อง ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ปิด 99.06 จุด ณ วันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นระดับแข็งค่าสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2559 เราเชื่อว่ากองทุน / Hedge Fund จะถือเงินสดได้ไม่นาน และต้องหาที่ลงทุนในท้ายที่สุด ตลาดหุ้นในเอเชียยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีเสถียรภาพในช่วงที่ต้องรอความชัดเจนนโยบายทางเศรษฐกิจจากว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค. 2560
เงินทุนต่างชาติที่ไหลออกจึงเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้นในความเห็นของเรา Donwside risk ของ SET INDEX ยังคงจำกัดบริเวณ 1,480 จุด +/- อีกทั้งติดตามการประกาศปรับดัชนี MSCI ในเช้าวันพรุ่งนี้ อาจมีปรับเพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นไทยได้ รวมถึงการเพิ่มหุ้นไทยเข้าคำนวณในดัชนี MSCI Thailand ซึ่งจะเป็นบวกต่อภาพรวมของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของเดือนต.ค.
กลยุทธ์การลงทุน “ทยอยสะสมหุ้นหลัก โดยเฉพาะกลุ่ม Domestic Play” และเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางที่แนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q59 เติบโตเด่น
Strategy of the Day
1. เก็งกำไร TTA : ราคาปิด 9.20 บาท ราคาเหมาะสม 12.60 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นขนาดกลาง-เล็ก จะ Outperform ตลาด เนื่องจากหุ้นใหญ่จะยังพักฐานจากแรงขายปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจาก Dollar Index แข็งค่าจากคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14 ธ.ค.
b) คาดว่า TTA จะ Outperform ตลาดได้ ในทิศทางเดียวกับการไต่ระดับขึ้นของดัชนีค่าระวางเรือ BDI ที่ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้นอีก 71 จุด เป็น 1,045 จุด ทำระดับสูงสุดใหม่ของปี 2559 และเริ่มเข้าใกล้จุดคุ้มทุนธุรกิจเรือเทกองของ TTA
c) Downside Risk จำกัด ซื้อขายที่ PBV เพียง 0.78 เท่า และฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยมีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้น สิ้นสุด 2Q59 สูงถึง 1.2 หมื่นล้านบาท หรือเทียบเท่า 6.59 บาทต่อหุ้น
2. เก็งกำไร VTE : ราคาปิด 3.46 บาท เป้าหมายทางเทคนิค 4.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นขนาดกลาง-เล็ก จะ Outperform ตลาด เนื่องจากหุ้นใหญ่จะยังพักฐานจากแรงขายปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจาก Dollar Index แข็งค่าจากคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14 ธ.ค.
b) คาดผลประกอบการ 3Q59 จะพลิกเป็นกำไรสุทธิ จากขาดทุนสุทธิใน 2Q59 และเติบโตสูง qoq เป็นราว 30 ล้านบาท เนื่องจากเป็นไตรมาสแรกที่รับรู้รายได้ธุรกิจ EPC ในฟิลิปปินส์และพม่าขณะที่ทิศทางกำไรสุทธิ 4Q59 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องทั้ง yoy & qoq จากการรับรู้รายได้งาน EPC แบบเต็มไตรมาส
c) มี Hidden Asset ซ่อนอยู่ คือเหมืองถ่านหิน Sunhub ที่อินโดนีเซีย ซึ่งมีปริมาณสำรองถ่านหิน 25.58 ล้านต้น และ VTE ถือหุ้นอยู่ 25% และได้ตั้งสำรองเหมืองถ่านหินดังกล่าวแล้วทั้งจำนวน ดังนั้น หากมีการขายเงินลงทุนในเหมืองถ่านหินดังกล่าว จะส่งผลให้ VTE สามารถบันทึกกำไรพิเศษก้อนใหญ่
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิเป็นวันที่ 15 อีก US$1,538 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$13 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 15 และในอัตราเร่ง
นักลงทุนต่างชาติ ยังคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 15 เร่งขึ้นเป็น 3,744 ล้านบาท รวม 15 วันทำการต่างชาติขายสุทธิ 22,096 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิต่ำกว่า 1.0 แสนล้านบาท เป็น 99,312 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short มากถึง 23,605 สัญญา เป็นการปิดสถานะ Long ที่ถือทั้งหมด QTD มาถือสถานะ Short อย่างหนาแน่น ดังจะเห็นได้จาก QTD ใน 4Q59 นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมามีสถานะ Short สุทธิ 21,450 สัญญา เมื่อกดดันให้ S50Z16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 8 เหลือเพียง 0.31จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 0.59 จุด
และนักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 มากถึง 26,973 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 29,897 ล้านบาท เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 2,695 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยปรับฐานลงเป็นวันที่ 6 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นอีก 4.77bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 9.87bps ปิดที่ 2.315%Short-Selling วานนี้
ลดลงเป็นวันที่ 2 เหลือ 954 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้า 1,161 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 58 หลักทรัพย์ จากวันก่อนหน้า 64 หลักทรัพย์
NVDR Movement
NVDR ขายสุทธิเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้น เลือกลดน้ำหนักกลุ่มขนส่งและพลังงาน
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ขายสุทธิมากถึง 2,089 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 337 ล้านบาท รวม 3 วันทำการขายสุทธิ 2,768 ล้านบาท ทั้งนี้ NVDR เลือกลดน้ำหนักกลุ่มขนส่งสูงสุด 487 ล้านบาท กลุ่มพลังงาน 47 ล้านบาท และกลุ่มอสังหาฯ 265 ล้านบาท แต่สะสมกลุ่มโรงพยาบาลสูงสุดเพียง 72 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
นาย Trump เลือกนาย Priebus เป็นหัวหน้าทีมทำเนียบขาว: ว่าที่ปราะธานาธิบดี Trump ได้ตัดสินใจเลือกนาย Reince Priebus ประธานคณะกรรมการชาติของพรรค Republican เป็นหัวหน้าทีมทำเนียบขาว ซึ่งนาย Priebus ยินดีเข้าร่วมทำงานกับโฆษกทำเนียบขาวนาย Paul Ryan และสภาคองเกรส ส่วนหัวหน้าทีมกลยุทธ์และอาวุโสด้านที่ปรึกษา นาย Bannon ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมหาเสียงของนาย Trump และเป็นอดีตหัวหน้าสำนักขาว Breitbart News
ยุโรป
รมว.เศรษฐกิจเยอรมัน คาด GDP เติบโตต่อเนื่องใน 3Q59: แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนจากกรณี Brexit คาดว่าเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยใน 3Q59 ดังจะเห็นได้จากผลผลิตภาคอุตฯ ที่ทรงตัวในช่วง 3 เดือน สิ้นสุดเดือนก.ย. ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง เป็นบวกต่อการบริโภคภายในประเทศให้สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของเยอรมันในไตรมาสนี้
จีน
ยอดสินเชื่อใหม่สกุลเงินหยวนลดลงค่อนข้างมาก: เดือนต.ค. ยอดสินเชื่อใหม่สกุลเงินหยวนเพิ่มขึ้น 6.513 แสนล้านหยวน ต่ำกว่า Reuters poll คาด 7.00 แสนล้านหยวน และเดือนก.ย.ที่ 1.22 ล้านล้านหยวน เนื่องจากยอดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยชะลอตัว ตามนโยบายของรัฐบาลที่ควบคุมตลาดอสังหาฯ นอกจากนี้สินเชื่อภาคเอกชนชะลอตัวเช่นกัน
เอเชียแปซิฟิก
ศาลอินเดียไม่รับการพิจารณาภาคเอกชนที่ขอยกเว้นภาษีการค้า: เอกชนกว่า 2,000 บริษัท เช่น Jindal Group, Vedanta, Steel Authority of India และ Tata Steel ต่างยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์การชำระภาษีการค้า จากการเคลื่อนย้ายสินค้าจากรัฐหนึ่งไปอีกรัฐหนึ่ง ภายใต้โครงการ Free Trade ซึ่งศาลปฎิเสธพิจารณาดังกล่าว และทำให้เอกชนจะต้องเสียภาษีราว US$4.5 พันล้านย้อนหลัง รวมถึงดอกเบี้ยจ่าย
ผู้นำอินเดีย – ญี่ปุ่น ตกลงร่วมกันในโครงการพลังงานนิวเคลียร์: นายกฯ อินเดีย Modi ได้หารือกับนายกฯ ญี่ปุ่น Abe เพื่อตกลงเกี่ยวกับโครงการพลังงานนิวเคลียร์ และการเพิ่มความแข็งแกร่งทางด้านความสัมพันธ์ร่วมกัน โดยทางญี่ปุ่นจะเป็นผู้จัดหา Nuclear Reactors, พลังงาน และเทคโนโลยี และพร้อมลงนามในข้อตกลงกับทางอินเดีย หลังเจรจาในโครงการดังกล่าวมากว่า 6 ปี
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: อัตราดอกเบี้ย Overnight เท่ากับ 3.0% เท่ากับที่ตลาดคาดการณ์
รมว.คลังอินเดียคาดต้องใช้เวลาในการปรับระบบ ATM กับแบงก์ใหม่: หลังรัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกธนวัตร 500 รูปี และ 1,000 รูปี ดังนั้นระบบ ATM ของธนาคารจะต้องปรับเปลี่ยนให้รับธนบัตรใหม่
อินเดียจำกัดการถอนเงินสดจากธนาคาร: รัฐบาลอินเดีย จำกัดการถอนเงินสดจากบัญชีธนาคารตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 13 พ.ย. เป็นต้นมา กำหนดไม่เกิน 10,000 รูปี/วัน แต่ไม่เกิน 24,000 รูปี/สัปดาห์ ส่วนการแลกเปลี่ยนธนบัตรจะไม่เกิน 4,500 รูปี/วัน จากเดิม 4,000 รูปี โดยธนาคารพาณิชย์ในอินเดียได้รับธนบัตร 500 รูปี และ 1,000 รูปี มูลค่ารวม 3.0 ล้านล้านรูปี ในช่วง 4 วันทีผ่านมา ทั้งนี้รมว.คลัง อินเดียจะทยอยเพิ่มสภาพคล่องของธนบัตรทั้ง 2 เข้าสู่ระบบให้มากขึ้น
GDP ใน 3Q59 ของญี่ปุ่นขยายตัวดีกว่าคาด: เติบโต 2.2% yoy ถือเป็นไตรมาสที่ 3 เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัว ผลักดันโดยการส่งออก และถือว่าดีกว่าที่ Reuters Poll คาด 0.9% yoy และเร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 0.7% yoy
ไทย
ไม่มี
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 14 พ.ย. 2559
ข่าวเด่น