นางสุวรรณา จุ่งรุ่งเรือง ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวว่า ปัจจุบันบริเวณท้องสนามหลวงมีต้นมะขาม จำนวน 783 ต้น แต่เนื่องจากการราดน้ำที่เหลือจากการปรุงอาหารและน้ำแข็งลงที่โคนต้น จึงทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นมะขาม ซึ่งสำนักสิ่งแวดล้อมพบว่ามีต้นมะขาม จำนวน 200 ต้น ที่มีน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้น
ดังนั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ดูแลต้นมะขามรอบท้องสนามหลวงที่มีอายุกว่า 100 ปี ไม่ให้ล้มตาย สำนักสิ่งแวดล้อมจึงเร่งดำเนินการดูแลบำรุงรักษาต้นมะขาม ด้วยการนำท่อพีวีซีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้ว ยาว 50 เซนติเมตร (ฝังลงดินลึก 40 ซม.) เจาะรูตลอดแนวยาวประมาณ 5-6 แนว ฝังลงไปรอบโคนต้นมะขามต้นละ 4-6 ท่อ เพื่อช่วยระบายน้ำส่วนเกินออกจากบริเวณโคนต้นมะขาม ซึ่งน้ำส่วนเกินนี้จะไหลผ่านรูที่เจาะมารวมในท่อ จากนั้นจะใช้กระบอกสูบสูบน้ำออกทิ้ง ช่วยให้อากาศไหลเวียนบริเวณรากต้นมะขาม เพื่อช่วยให้รากมีอากาศหายใจ พร้อมใช้ตาข่ายปิดท่อพีวีซี เพื่อป้องกันเศษอาหาร หรือการทิ้งขยะอุดตันท่อ โดยได้ดำเนินการแล้วเสร็จทั้ง 200 ต้น ที่มีปัญหา หลังจากนั้นจะนำกระสอบทรายที่วางทับบนผิวดินบริเวณโคนต้นมะขามออก แล้วปูผิวด้วยอิฐมวลเบาชนิด “เคิร์บบล็อก” (curb block) มาปูแทนบริเวณโคนต้นมะขามที่ต่อท่ออากาศแล้ว เพื่อช่วยให้อากาศไหลเวียนสู่รากได้ดีขึ้น
ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กล่าวในท้ายสุดว่า นอกจากการดำเนินการดังกล่าวแล้ว สำนักสิ่งแวดล้อมขอความร่วมมือให้ประชาชาชนที่เข้ามาในพื้นที่ท้องสนามหลวง ช่วยกันดูแลรักษาต้นมะขาม ด้วยการไม่ทิ้งขยะ เศษอาหาร หรือเทน้ำใต้โคนมะขาม เพื่อให้ต้นไม้นี้เป็นสัญลักษณ์อยู่คู่กับท้องสนามหลวงตลอดไป
ข่าวเด่น