หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 15 พ.ย. 2559 ราคาน้ำมันดิบปรับลงเล็กน้อย หลังได้รับความหวังจากการปรับลดกำลังการผลิตจากกลุ่มโอเปก
(-) ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสจะยังคงปรับลดลงต่อจนแตะระดับต่ำที่สุดในรอบสามเดือน แต่ตัวเลขที่ออกมายังลดลงน้อยกว่าหลายวันที่ผ่านมา โดยปรับลดลงไม่ถึง 1 เปอร์เซนต์ หลังผู้เล่นในตลาดคาดหวังว่าผู้ผลิตกลุ่มโอเปกจะมีการทำข้อตกลงกันในการประชุมวันที่ 30 พ.ย. นี้ได้สำเร็จและทำให้สถานการณ์น้ำมันดิบล้นตลาดบรรเทาลงได้ โดยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในกลุ่มโอเปกเดือน ต.ค. ซึ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลกระทบให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาดเป็นอย่างมาก
(+) นาย KhalidAl-Falihรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบีย ได้ออกมากล่าวว่า เป็นความจำเป็นที่สมาชิกในกลุ่มโอเปกต้องบรรลุข้อตกลงที่จะลดกำลังการผลิตนับตั้งแต่การตกลงกันในเดือน ก.ย.ที่อัลจีเรีย ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดคลายความกังวลเรื่องปริมาณน้ำมันดิบจากกลุ่มผู้ผลิตได้บ้าง
(-) อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตน้ำมันชั้นดินดานสหรัฐฯ (Shale oil) ได้กลับมาทำการฟื้นฟูโครงสร้าง หลุมขุดเจาะน้ำมันดิบ และทำการจ้างงาน หลังจากการชนะการเลือกตั้งของนาย Donald Trumpซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการใช้น้ำมันดิบมากกว่าการใช้พลังงานทางเลือก และการส่งสัญญาณการลดกำลังการผลิตจากผู้ผลิตน้ำมันดิบในกลุ่มโอเปก ทาให้ผู้ผลิตมีความเชื่อมั่นว่าราคาน้ำมันดิบจะกลับมาอยู่ในระดับสูงอีกครั้งนึง
(-) ยอดค้าปลีกจีนประจำเดือน ต.ค.ขยายตัวลดลงมาอยู่ที่ 10.0% ส่งสัญญาณความกังวลเรื่องความต้องการภายในประเทศ โดยแสดงถึงเศรษฐกิจของประเทศที่ยังเปราะบางแต่ยังมีเสถียรภาพ
(+/-) ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนเดือน ต.ค.ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.1% โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์และสินค้าไฮเทค
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความกังวลปริมาณน้ำมันเบนซินล้นตลาดในสหรัฐฯ เนื่องจากที่ส่งน้ำมัน Colonoal pipeline ยังไม่สามารถใช้งานเพื่อส่งออกน้ำมันดิบไปที่อื่นได้อย่างไรก็ดียังได้รับแรงหนุนจากความต้องการซื้อเวียดนามและไต้หวันที่ยังคงแข็งแกร่ง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานไม่สามารถส่งออกไปยังนอกภูมิภาคได้ตามความไม่คุ้มทุนด้านราคาขณะที่โรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาคยังคงผลิตน้ำมันดีเซลอย่างต่อเนื่องเนื่องจากยังคงคุ้มค่าที่จะผลิต
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ42-47เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 43-48เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ตลาดยังกังวลว่ากลุ่มโอเปกตกลงกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตมาอยู่ที่ระดับ 32.5 -33.0 ล้านบาร์เรลได้หรือไม่ จากตัวเลขคาดการณ์ล่าสุด เดือน ต.ค. ที่ 33.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยสำนักงานพลังงานสากล (IEA) กล่าวว่าหากกลุ่มโอเปกไม่สามารถตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลงได้ จะส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบจะยังคงล้นตลาดต่อเนื่องในปี 2017
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นและส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบต่อเนื่อง หลังนักลงทุนคลายกังวลต่อประธานาธิบดีของสหรัฐฯ คนใหม่ ที่มีนโยบายในเชิงสุดโต่ง ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งถัดไปในเดือน ธ.ค.
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เริ่มปรับเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น และปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยสัปดาห์ล่าสุด ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 4พ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.4ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
โดย หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 15 พ.ย. 2559
ข่าวเด่น