BJCHI รายได้งวด 9 เดือนโต 24% ลั่นอยู่ระหว่างลุ้นผลประมูลงานใหม่ พร้อมแจกปันผลระหว่างกาล
บมจ.บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี (BJCHI) ผลงานงวด 9 เดือน มีรายได้รวมอยู่ที่ 4,530 ล้านบาท เติบโต 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 332 ล้านบาท ลั่นอยุ่ระหว่างประมูลงานใหม่ในหลากหลายอุตสาหกรรม ในขณะที่บอร์ดไฟเขียวอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.125 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่าย 16 ธ.ค.นี้
นางจันทร์จิรา สมัครไทย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (BJCHI) ผู้ดำเนินธุรกิจวิศวกรรมด้านการรับจ้างผลิต และการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมตามแบบและขนาดที่ลูกค้ากำหนด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 4,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 867 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,664 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 332 ล้านบาท ลดลง 428 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 761 ล้านบาท
"รายได้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากการทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจากงานโครงการ TUPI FPSO modules project (01B และ 02B) และงานโครงการ QGI project ซึ่งได้กลับมาดำเนินโครงการอีกครั้งในช่วงต้นปี 2559 นี้ ในขณะที่กำไรที่ลดลงสาเหตุหลักเนื่องจาก การเพิ่มขึ้นของต้นทุนตามสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการ TUPI FPSO modules project โดยเฉพาะต้นทุนจากการเร่งส่งมอบงานเพื่อให้เป็นตามแผน ทั้งนี้ โครงการ TUPI FPSO modules project เป็นโครงการที่บริษัทรับงานในฐานะที่เป็นผู้รับเหมาโครงการหลัก (EPC) ซึ่งโครงการลักษณะดังกล่าว จะมีอัตรากำไรที่ไม่สูงมากนัก"นางจันทร์จิรา สมัครไทย กล่าว
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (BJCHI) กล่าวอีกว่า ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2559 บริษัทฯ มีปริมาณงานในมือ (Backlog) ประมาณ 2,200 ล้านบาท และได้เข้ายื่นประมูลงานใหม่ในต่างประเทศ หลากหลายอุตสาหกรรม เช่น น้ำมันและก๊าซ เหมืองแร่ พลังงานทดแทน การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น ซึ่งในส่วนของโครงการ High Potential ทั้งหมดนั้นคิดเป็นมูลค่ากว่า 8,500 ล้านบาท และบางโครงการคาดว่าจะทราบผลการประมูลภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2559 นี้
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมบริษัทครั้งที่ 5/2559 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 ได้มีมติจ่ายปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสมเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.125 บาท รวมเป็นเงินจำนวนไม่เกิน 200,000,000บาท (สองร้อยล้านบาท) โดยกำหนดให้วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2559 เป็นวันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้นในการได้รับเงินปันผล (Record Date) และกำหนดให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) ด้วยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม 2559 และกำหนดวันจ่ายปันผลในวันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2559
ข่าวเด่น