นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าวฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดเดือนตุลาคม 2559 ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 รัฐบาลมีรายได้นําส่งคลังทั้งสิ้น จำนวน 154,465 ล้านบาท ในขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจํานวนทั้งสิ้น จำนวน 435,355 ล้านบาท รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 52,714 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2559 มีจํานวนทั้งสิ้น 235,805 ล้านบาท
นายกฤษฎาฯ สรุปว่า “การเบิกจ่ายงบประมาณในเดือนแรกของปีงบประมาณที่อยู่ในระดับสูง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการสนับสนุนการเบิกจ่ายของภาครัฐในไตรมาสที่ 4 ปี 2559 ซึ่งจะส่งผลให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบและเป็นผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ”
ในเดือนตุลาคม 2559 รัฐบาลขาดดุลเงินสดจํานวน 258,209 ล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ จำนวน 280,890 ล้านบาท และเป็นการเกินดุลเงินนอกงบประมาณ จำนวน 22,681 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2559 มีจํานวน 235,805 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. รัฐบาลมีรายได้นําส่งคลัง จำนวน 154,465 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 1,874 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.2) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการจัดเก็บอากรขาเข้าต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว
2. รัฐบาลมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น จำนวน 435,355 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว จำนวน 61,154 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 16.3) โดยมีการเบิกรายจ่ายปีปัจจุบัน จำนวน 422,383 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว ร้อยละ 17.5 ประกอบด้วยรายจ่ายประจํา จำนวน 394,852 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 17.5 และรายจ่ายลงทุน 27,531 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 17.0 และการเบิกจ่ายเงินจากงบประมาณปีก่อนจํานวน 12,972 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 11.1
การเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่สําคัญในเดือนนี้ ได้แก่เงินอุดหนุนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำนวน 62,586 ล้านบาท รายจ่ายอื่นของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน 54,076 ล้านบาท และเงินอุดหนุนของกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 45,451 ล้านบาท
ข่าวเด่น