"ธานินทร์ ตันประวัติ" เผยภาพรวมธุรกิจบมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท (ARROW)ต่อจากนี้ยังสดใส ตามคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มั่นใจปีนี้ปั๊มรายได้โต 12-15% ตามเป้า หลังโชว์งบงวด 9 เดือนกำไรพุ่งแตะ 197.07 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3/59 ไม่แพ้กันปั๊มกำไรโต 70.43 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้เท่ากับ 380.5 ล้านบาท ตามความต้องการในการใช้วัสดุสำหรับงานระบบในอาคาร และโครงการสาธารณูปโภคที่เติบโต
?
นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) (ARROW) เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้มั่นใจว่ายังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเชื่อว่าจะมีคำสั่งซื้อใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาอีก ซึ่งปัจจุบัน ARROW มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) คิดเป็นมูลค่า 270 ล้านบาท และเตรียมเสนองานอีกหลายโปรเจ็กต์ ดังนั้นจึงทำให้เชื่อมั่นว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโตได้ 12-15% ตามเป้า ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจะรักษาให้อยู่ที่ประมาณ 28-32% ในขณะที่กำไรสุทธิหลังจากปิดงบ Q3 อยู่ที่ประมาณ 20.3%
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 ของบริษัท และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 197.07 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 184.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.65 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 6.85% ขณะที่กำไรสุทธิไตรมาส 3/2559 ของบริษัทและบริษัทย่อยพบว่ามีกำไรสุทธิ 70.43 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 65.85 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.95 % ส่วน
ส่วนสาเหตุหลักที่ผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น เนื่องจาก มีรายได้จากการขายเพิ่มเป็น 380.5 ล้านบาท เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 318.76 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น19.36 %
"จากผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนและไตรมาส 3/59 ที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เหตุเพราะช่วงไตรมาส 3 ของทุกๆ ปี ถือเป็น High Season ของการขายท่อร้อยสาย ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบหลักยังคงทรงตัว และเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นรวมถึงผลการดำเนินงานบริษัทย่อย เมฆา-เอส จำกัด พลิกเป็นกำไร เพราะเริ่มส่งมอบงานตามฤดูกาล และที่สำคัญจากการที่บริษัทเป็นผู้นำด้านการตลาด และมีความยืดหยุ่นในการบริหารต้นทุนที่สูง มีผลการดำเนินงานของธุรกิจหลักอย่างการผลิตและจัดจำหน่ายท่อร้อยสายไฟฟ้าและท่อแบบต่างๆ ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง และยังได้เปรียบคู่แข่งในด้านคุณภาพและราคา อีกทั้งยังมีท่อร้อยสายไฟฟ้าลงดิน และรายได้จากการให้บริการของบริษัท เมฆา-เอส ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่จะเข้ามาผลักดันการเติบโตในอนาคตของบริษัทฯทั้งสิ้น ทำให้เชื่อว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ได้" นายธานินทร์กล่าวในที่สุด
ข่าวเด่น