กรมการขนส่งทางบก จัดประชุมผู้เชี่ยวชาญแห่งเอเชีย ครั้งที่ 45 (45th Asia Expert Meeting) เพื่อสร้างมาตรฐานการตรวจสอบเพื่อรับรองแบบรถ และควบคุมมลพิษทางเสียงของรถจักรยานยนต์และรถยนต์ของประเทศไทยและในภูมิภาค ให้สอดคล้องเป็นมาตรฐานเดียวกับสหประชาชาติ
นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมผู้เชี่ยวชาญแห่งเอเชีย ครั้งที่ 45 (45th Asia Expert Meeting) เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 เวลา 09.30 น. ณ โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพ ซึ่งจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจในข้อกำหนดสหประชาชาติเกี่ยวกับมลพิษทางเสียงของรถจักรยานยนต์ (R41.04) และรถยนต์ (R51.03) ตามแนวข้อกำหนดสหประชาชาติ (UN Regulation) ของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจของยุโรปแห่งสหประชาชาติ (The United Nations Economic Commission for Europe; UNECE) เนื่องจากได้มีการปรับปรุงเกณฑ์และวิธีการทดสอบมลพิษทางเสียงของรถจักรยานยนต์และรถยนต์ให้มีความซับซ้อนทางเทคนิคมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เพื่อให้มาตรฐานการตรวจสอบเพื่อรับรองแบบรถ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางเสียงรถจักรยานยนต์และรถยนต์ของประเทศไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกับสหประชาชาติ และสอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ของโลก กรมการขนส่งทางบกจึงได้จัดให้มีการประชุมผู้เชี่ยวชาญแห่งเอเชีย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในประเด็นดังกล่าวแก่เจ้าหน้าที่ภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ โดยได้รับความร่วมมือจาก Japan Automobile Standards Internationalization Center (JASIC) ส่งผู้เชี่ยวชาญมาเป็นวิทยากรถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยกรมการขนส่งทางบกจะรวบรวมประเด็นความคิดเห็นเพื่อนำไปปรับประกาศกรมฯ ให้มีความสอดคล้องเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกับสหประชาชาติ และเหมาะสมกับประเทศไทยต่อไป
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการกับปัญหามลพิษทางเสียงของรถจักรยานยนต์และรถยนต์ โดยได้ดำเนินการปรับปรุงกฎ ระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของยานพาหนะที่ใช้งานในประเทศเป็นมาตรฐานเดียวกับสากล นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกยังกำหนดให้รถจักรยานยนต์อายุการใช้งาน 5 ปีขึ้นไป และรถยนต์อายุการใช้งาน 7 ปีขึ้นไป ต้องตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษีรถประจำปี ซึ่งจะมีการตรวจสอบระดับเสียงโดยใช้มาตรฐานและวิธีการตรวจวัดเดียวกันทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ผู้ขับขี่ควรหมั่นบำรุงรักษารถให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ ไม่ขับรถด้วยความเร็วสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด และไม่ดัดแปลงท่อไอเสียซึ่งมีผลทำให้ระดับเสียงของรถสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
ข่าวเด่น