วันนี้ (17 พฤศจิกายน 2559) เวลา 15.00 น. นายฟรังซิชกู เด อัสซิช มูไรช์ เอ คูญา วาซ ปัตตู (H.E. Mr. Francisco de Assis Morais e Cunha Vaz Patto) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐโปรตุเกสประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ณ ห้องรับรองภายในสำนักงานรองนายกรัฐมนตรี ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรี ยินดีต้อนรับและกล่าวขอบคุณที่ฝ่ายโปรตุเกสได้ถวายความอาลัยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เอกอัครราชทูต กล่าวขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีที่เสียสละเวลาให้เข้าพบ พร้อมกล่าวว่า ไทยและโปรตุเกสมีความสัมพันธ์มายาวนาน จึงเห็นควรที่จะพัฒนาและสานต่อความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ซึ่งได้มีการส่งเสริมและสนับสนุนเพื่อดึงดูดให้นักธุรกิจโปรตุเกสหันมาลงทุนในไทยให้มากขึ้น เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงปฏิรูปประเทศ ด้านรองนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ไทยและโปรตุเกสควรมีการจัดตั้งสภาธุรกิจ (Business Council) ซึ่งจะเป็นช่องทางที่ช่วยให้นักธุรกิจทั้งสองประเทศสามารถติดต่อกันได้โดยตรง และจะช่วยนำนักลงทุนจากโปรตุเกสมาไทยและจากไทยไปโปรตุเกสให้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นกระชับความร่วมมือระหว่างกันด้วย
ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงการท่องเที่ยว โดยเอกอัครราชทูตกล่าวว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวโปรตุเกสเดินทางมาประเทศไทยเฉลี่ยปีละประมาณ 30,000 คน ในขณะที่นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปโปรตุเกสเพิ่มมากขึ้นด้วย ด้านรองนายกรัฐมนตรี กล่าวชมโปรตุเกสว่าเป็นเมืองที่มีความสวยงาม ซึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองของไทยโดยชี้แจงว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังเดินหน้าตามโรดแมป เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับประเทศไทย พร้อมทั้งปฏิรูปประเทศให้มีความก้าวหน้ามากยิ่ง จึงเป็นโอกาสดีที่โปรตุเกสจะเข้ามาลงทุนในไทยช่วงนี้ ขณะเดียวกัน อาเซียนก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่โปรตุเกสสามารถเข้ามาลงทุน เพื่อกระชับความร่วมมือทั้งในระดับทวิภาคี และพหุภาคี
ในตอนท้าย รองนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตที่มาเข้าพบ พร้อมทั้งกล่าวว่า ไทยและโปรตุเกสมีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน จึงต้องการให้รักษาความสัมพันธ์อันดีนี้และสานต่อให้ยาวนานยิ่งขึ้น
ข่าวเด่น