นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรม ฯ ได้ปรับปรุงมาตรฐานสินค้าข้าวฉบับใหม่เสร็จสิ้นแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรอประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ธ.ค. 2559 นี้ ซึ่งเป็นการปรับปรุงจากฉบับปัจจุบัน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การค้าข้าวโลกปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป โดยจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันการค้าและส่งออกข้าวกับประเทศคู่แข่ง และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคหลากหลายขึ้น
มาตรฐานข้าวฉบับใหม่ได้ แบ่งจัดลำดับข้าวออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มตลาดระดับบน คือ กลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงต้องการข้าวที่มีคุณภาพ โดยกำหนดให้มีข้าวหอมมะลิไทยสัดส่วนไม่น้อยกว่า 92% และใช้ชื่อภาษาไทยว่า "ข้าวหอมมะลิไทย" ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า "Thai Hom Mali Rice"
2.กลุ่มตลาดระดับกลาง คือ กลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการข้าวเกรดรองจากข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งมีราคาต่ำกว่าข้าวหอมมะลิไทย โดยได้กำหนดมาตรฐานสินค้าข้าวหอมไทยฉบับใหม่ เพื่อเป็น Fighting Brand ในการแข่งขันทางการค้ากับประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม กัมพูชา และเป็นการส่งเสริมการวิจัยข้าวหอมพันธุ์ใหม่ๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สามารถส่งออกได้มาตรฐานสินค้าข้าวหอมไทยนี้ จะมีข้าวหอมไทยไม่น้อยกว่าสัดส่วน 80% มีอมิโลสไม่เกิน 20% ใช้ชื่อภาษาไทยว่า "ข้าวหอมไทย" และใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Thai Jasmine Rice หรือ Thai Fragrant Rice หรือ Thai Aromatic Rice
3.กลุ่มตลาดระดับล่างเป็นการเปิดช่องทางการส่งออกข้าวกรณีที่ผู้ซื้อต่างประเทศต้องการบริโภค ข้าวหอมที่มีเงื่อนไขแตกต่างจากมาตรฐานที่กำหนดไว้ข้างต้นดังกล่าว ซึ่งผู้ซื้อสามารถซื้อข้าวหอมผสมในรูปของข้าวตามตัวอย่างภายใต้มาตรฐานสินค้าข้าวที่ได้ปรับปรุงใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ การค้า การผลิต และการส่งออกข้าวในปัจจุบัน
นางดวงพร กล่าวว่า แนวโน้มการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ กรมฯ กำลังติดตามการนำเข้าข้าวของฟิลิปปินส์ ที่คาดว่าจะมีการเปิดประมูลนำเข้าข้าวในช่วงปลายปีอีกประมาณ 3-5 แสนตัน โดยเชื่อว่าขณะนี้ราคาข้าวไทยปรับตัวลงมา และคาดว่าจะถึงระดับต่ำสุดแล้ว จะสามารถช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางด้านราคาให้กับไทยได้
ข่าวเด่น