นายกรัฐมนตรีเผยผลการหารือกับเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาและตัวแทนภาคเอกชนจากโครงการ ประชารัฐ พร้อมผลักดันโครงการบริหารจัดการน้ำให้เกิดเป็นรูปธรรมมากที่สุดในปี 61
วันนี้ (18 พ.ย. 59) เวลา 11.30 น. ณ อาคารสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา โครงการสระเก็บน้ำพระราม 9 ตำบลคลองหลวง อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประชุมหารือ กับเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา (ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล) และตัวแทนภาคเอกชนจากโครงการประชารัฐถึงแนวทางขยายผลการพัฒนาพื้นที่แก้มลิงอันเนื่องมาจากพระราชดำริเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน จะได้ร่วมกัน “เทิด ด้วย ทำ” น้อมนำ แนวพระราชดำริมาลงมือปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จและขยายผลการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
สำหรับสระเก็บน้ำพระราม 9 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2534 โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานที่ดินให้มูลนิธิชัยพัฒนาดำเนินการก่อสร้างแหล่งเก็บน้ำเอนกประสงค์ขนาดใหญ่ 2 สระ ในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของจังหวัดปทุมธานี ตั้งอยู่ระหว่างคลอง 5 และคลอง 6 ในอำเภอคลองหลวง และอำเภอธัญบุรี มีเนื้อที่ 2,178 ไร่ เก็บกักน้ำได้ 36 ล้านลูกบาศก์เมตร ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2538 ใช้ประโยชน์ในการเก็บกักน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมในฤดูฝน และในช่วงหน้าแล้งก็ช่วยส่งน้ำไปบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2558 เกิดวิกฤตภัยแล้ง น้ำเพื่อการเกษตรไม่เพียงพอ น้ำประปาในจังหวัดปทุมธานีไม่ไหล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำจากสระเก็บน้ำพระราม 9 ไปบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวปทุมธานี ทรงรับสั่งว่า “ถนนพังบ้างก็ไม่เป็นไร ต้องเอาน้ำออกไปช่วยเหลือประชาชนก่อน”
ภายหลังการประชุมหารือ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้มีการพูดคุยถึงการแก้ไขการบริหารจัดการน้ำตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดขึ้นได้ ในปี 2560 – 2561 ให้มากที่สุด โดยนำเอาต้นแบบที่ทำอยู่แล้ว ไปขยายการดำเนินการให้มากขึ้นในทุกพื้นที่ของประเทศ ซึ่งอยู่ในแผนแม่บทที่จะส่งต่อไป ทั้งการ หาแหล่งน้ำ ระบบส่งน้ำ และการบริหารจัดการน้ำอย่างเต็มพื้นที่ตามความต้องการของประขาชน และสิ่งสำคัญที่สุดคือ อะไรก็ตามจะทำได้สำเร็จต้องอาศัยความร่วมมือ และความเข้าใจของประขาชน รวมถึงสื่อมวลชน และข้าราชการต้องร่วมมือกันด้วย ซึ่งวันนี้ต้องขอขอบคุณนักธุรกิจ เพราะเข้ามาช่วยในพื้นที่นี้ ตามกลไกประขารัฐ โดยเขาก็ชื่นชมรัฐบาลและยินดีที่จะช่วย นี่คือสิ่งที่สื่อต้องช่วยขยายให้ อย่าไปขยายความขัดแย้ง ในส่วนของรัฐบาลพร้อมจะทำ และแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนต่อไป
ข่าวเด่น