นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า แนวโน้มปริมาณการใช้ไฟฟ้าในปี 2560 คาดว่าจะเติบโตใกล้กับจีดีพีที่หลายหน่วยงานคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.5-4% หรือโตสูงกว่าเล็กน้อย เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศยังชะลอตัวตามทิศทางเศรษฐกิจโลก คาดปีหน้าประมาณการอัตราการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(พีค) อยู่ที่ 31,385 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นจากพีคปี 2559 อยู่ที่ 30,218 เมกะวัตต์ ขณะที่ค่าไฟฟ้าจะใกล้เคียงกับปีนี้ โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติยังทรงตัวตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงจากการเปลี่ยนประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่อาจมีผลต่อนโยบายเศรษฐกิจและความต้องการบริโภคน้ำมันของสหรัฐ แต่สัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเป็นสัญญาล่วงหน้า จึงยังไม่น่าจะมีผลกระทบกับไทย อย่างไรก็ตาม คาดว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะพิจารณาค่าไฟฟ้าอัตโนมัติผันแปร (เอฟที) งวดเดือน ม.ค.เม.ย.ปี 2560 ภายในเดือน ธ.ค.นี้
นายกรศิษฏ์ กล่าวถึง แผนการลงทุนปี 2560 ของกฟผ.ว่า กฟผ. ได้รับอนุมัติงบลงทุนจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) วงเงิน 57,587 ล้านบาท ลดลงจากเดิมที่ตั้งเป้าลงทุน 8.1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ และ อ.เทพา จ.สงขลา ยังมีความล่าช้ากว่าแผน รวมถึงแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าทดแทนเดิม คือ บางปะกง ยังไม่ได้รับอนุมัติรายงานผลกระทบ สิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) ทำให้การลงทุนในส่วนนี้จะยังไม่เกิดขึ้น
สำหรับงบดังกล่าวจะใช้เป็นเงินลงทุนโครงการระบบส่งและโรงไฟฟ้ารายการใหญ่ 31,879 ล้านบาท และแผนระยะยาวกับครุภัณฑ์รวม 25,707 ล้านบาท คาดว่าในไตรมาสแรกของปี 2560 จะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท โดยโครงการระบบส่งและโรงไฟฟ้ารายการใหญ่ที่จะดำเนินการในปี 2560 ประกอบด้วย โครงการขยายระบบส่งไฟฟ้า ระยะที่ 12 โครงการปรับปรุงและขยายระบบส่งไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน ระยะที่ 2 โครงการการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าบริเวณภาคตะวันออก เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า เป็นต้น
.jpg)
ข่าวเด่น