ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วันศุกร์ที่ผ่านมา แกว่งในกรอบแคบเช่นเดียวกับวันก่อนหน้า 1,470-1,480 จุด กลุ่มธนาคารช่วยประคองภาพรวม อีกทั้งต่างชาติขายสุทธิชะลอตัวลงจากช่วงก่อนหน้า ส่งผลให้ SET INDEX ยังประคองเหนือ 1,470 จุดได้ ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,474.86 จุด บวก 0.01 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 49,257 ล้านบาท
ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 20 เพียง 738 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 ลดลงเหลือ 2,639 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 7 สูงถึง 11,263 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- ติดตาม GDP ใน 3Q59 ของไทยเช้านี้ Bloomberg consensus คาด 3.3% yoy
- คาดแรงขายต่อชาติต่อเนื่อง แต่ชะลอตัวจากช่วงก่อนหน้า ก่อนถึงวันหยุดยาว Thanks Giving วันที่ 24 พ.ย.
- ดัชนีค่าระวางเรือ ปิดบวกเป็นวันที่ 12 อีก 26 จุด ปิดที่ 1,257 จุด
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง – Sideways (วันที่ 10)
เราประเมิน SET INDEX ยังคงแกว่งในกรอบแคบระหว่าง 1,470-1,480 จุด เช่นเดียวกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ SET INDEX จะมี downside risk จำกัดหรือไม่ขึ้นอยู่กับ GDP ใน 3Q59 ของไทย Bloomberg consensus คาด 3.3% yoy
- หากออกมาดีกว่าคาด SET INDEX มีโอกาสทะลุ 1,480 จุด
- หากออกมาเท่ากับที่คาด SET INDEEX จะแกว่งในกรอบแคบเช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม แรงขายจากต่างชาติเราคาดว่าจะยังต่อเนื่องอีก 2-3 วันทำการจากนี้ ก่อนที่กองทุนต่างชาติจะเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว Thanks giving ในวันที่ 24 พ.ย. ทำให้เราเชื่อว่า SET INDEX จะยังแข็งแกร่งเหนือ 1,460-1,470 จุด โดยกลุ่ม Domestic Play จะเป็นกลุ่มหลักในการประคองภาพรวม อีกทั้งหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ MSCI Thailand ทั้ง BJC/ KCE/ SCB เป็นทางเลือกที่แข็งแกร่งในช่วงที่ตลาด Sideways รวมถึงหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวจะขยับได้เด่น
กลยุทธ์การลงทุนยังคงแนะนำ “ทยอยสะสมหุ้นหลัก โดยเฉพาะกลุ่ม Domestic Play” และเก็งกำไรหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการปรับดัชนี MSCI Thailand และ MSCI Global Small Cap
Strategy of the Day
1. สะสม BEM : ราคาปิด 7.45 บาท ราคาเหมาะสม 8.10 บาท
a) MBKET ประเมินว่าหุ้นในกลุ่ม Defensive เช่น ธุรกิจรถไฟฟ้า จะเป็นที่พักเงินได้ดี ภายใต้ภาวะการลงทุนที่ยังผันผวนจากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลออก เนื่องจาก Dollar Index แข็งค่า
b) คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติ ใน 4Q59 จะเติบโตต่อเนื่อง yoy และ qoq เนื่องจากเป็นไตรมาสแรกที่จะรับรู้รายได้จากทางด่วนศรีรัช และค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงอย่างเต็มไตรมาส และดอกเบี้ยจะลดลง yoy จากอานิสงค์ของการ Refinance ซึ่งส่งผลให้ภาระดอกเบี้ยลดลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ 3Q59 ที่ผ่านมา
c) มี Catalyst รออยู่ ใน 4Q59 ได้แก่ 1.มีโอกาสเซ็นสัญญาเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย 2.ต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเดิมออกไปอีก 20 ปี ซึ่งเป็น Upside ที่ยังไม่รวมไว้ในราคาเหมาะสมของเราอีกหุ้นละ 1.00 บาท
2. สะสม SCB : ราคาปิด 144.00 บาท ราคาเหมาะสม 169.00 บาท
a) MBKET คาดว่า SCB จะ Outperform ตลาดได้ในเดือน พ.ย. เนื่องจากมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เนื่องจาก MSCI ประกาศเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน SCB และเป็นหุ้น Big Cap ที่ถูกเพิ่มน้ำหนักสูงสุดในรอบนี้ โดยจะมีการปรับน้ำหนักในวันที่ 30 พ.ย.
b) มี Catalyst รออยู่ โดยคาดว่าศาลล้มละลายกลางจะอนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการของ SSI ใน 4Q59 ดังนั้น จึงมีโอกาสที่ SCB จะกลับสำรองหนี้สูญ และส่งผลให้ NPL ลดลง และ Coverage Ratio เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
c) หากสามารถปิดดีลขายหุ้น SCB Life ให้กับพันธมิตรได้ จะส่งผลให้มีกำไรพิเศษสูงถึง 3.5 หมื่นล้านบาท เป็น Upside Risk ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการของเรา ขณะทีกำไรสุทธิปี 2560 คาดว่าจะเติบโต +26.3% yoy เป็น 5.8 หมื่นล้านบาท และ Valuation น่าสนใจ ซื้อขายที่ PBV2560 เพียง 1.3 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิเป็นวันที่ 20 อีก US$263 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$180 ล้าน
กลับมาขายทุกตลาดอีกครั้ง
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 20 และเริ่มชะลอตัวอีกครั้งนักลงทุนต่างชาติ ยังคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 20 ลดลงเหลือ 738 ล้านบาท รวม 20 วันทำการต่างชาติขายสุทธิ 32,566 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิลดลงเป็น 88,841 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 ลดลงเหลือ 2,639 สัญญา รวม 2 วันทำการ Short สุทธิ 9,085 สัญญา คาดว่าจะเป็นการเปิดสถานะ Short ต่อเนื่อง ทำให้ QTD ใน 4Q59 นักลงทุนกลุ่มนี้มีสถานะ Short สุทธิขยับขึ้นเป็น 32,039 สัญญา และทำให้ S50Z16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 13 กว้างขึ้นเป็น 4.60 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 0.23 จุด
และนักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 7 หนาแน่น 11,263 ล้านบาท รวม 7 วันทำการขายสุทธิ 80,594 ล้านบาท เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 2,695 ล้านบาท โดยราคาพันธบัตรไทยกลับมาหดตัวอีกครั้ง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 4.08bps จากวันก่อนหน้าลดลง 4.23bps ปิดที่ 2.616%
Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 1,151 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,160 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 76 หลักทรัพย์ จากวันก่อนหน้า 81 หลักทรัพย์
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 เน้นกลุ่มค้าปลีกอย่างโดดเด่น
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิเร่งขึ้นเป็น 1,002 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 282 ล้านบาท โดยกลับมาเน้นสะสมกลุ่มค้าปลีก 374 ล้านบาท กลุ่มธนาคาร 164 ล้านบาทและกลุ่มปิโตรเคมี 141 ล้านบาท แต่เลือกลดน้ำหนักกลุ่มขนส่ง 234 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ไม่มี
ยุโรป
ประธาน ECB จะยกเลิก QE ก็ต่อเมื่ออัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเท่าตัว: นาย Draghi ประธาน ECB ให้ความเห็นต่อคองเกรสด้านธนาคารของอียู ว่า อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอยู่ในขณะนี้เป็นผลจากตลาดการเงินเป็นหลัก ECB จะคงนโยบายการเงิน ณ ปัจจุบัน การจะยกเลิกมาตรการดังกล่าวเมื่ออัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับปัจจุบัน ภายใต้เงื่อนไขทางการเงินที่ไม่เปลี่ยน
รมว.คลังเยอรมันประเมินโอกาสที่จะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอียูจำกัด: รมว.คลังของเยอรมัน ไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มการใช้จ่ายของประเทศสมาชิกในกลุ่มอียู เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจ้างงาน ภายใต้ระดับหนี้ที่สูงขึ้นในกลุ่ม
สมาชิกบอร์ด ECB ส่งสัญญาณมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ใช่มาตรการถาวร: นาย Yves Mersch เป็นสมาชิก Executive Board ของ ECB ให้ความเห็นว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกรณีพิเศษนี้ไม่ใช่มาตรการถาวร แต่จะต้องถอนเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (ASAP)
นาง Merkel ยืนยันลงสมัครนายกฯ เยอรมันสมัยที่ 4: นาง Angela Merkel ประกาศลงสมัครเลือกตั้งสมัยที่ 4 ในปีหน้า พร้อมยืนยันทำงานครบเทอม 4 ปี ตราบใดที่สุขภาพนางอำนวย
จีน
การเชื่อมโยงตลาดหุ้นฮ่องกงและเซินเจินเตรียมเริ่มต้นขึ้นเร็วๆนี้: ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ให้สัมภาษณ์ว่า การเชื่อมโยงการซื้อขายหุ้นระหว่างตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นเซินเจินจะใกล้เริ่มขึ้นเร็วๆ นี้ ทำให้บริษัทจดทะเบียนเซินเจินได้รับความสนใจจากนักวิเคราะห์มากขึ้น จะเป็นการเปิดตลาดนักลงทุนใหม่แก่ตลาดหุ้นเซินเจิน
ราคาบ้านเริ่มชะลอตัวในเดือนต.ค.: ราคาบ้านเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.1% yoy จากเดือนก.ย.ที่ 2.1% mom โดยบ้านในเซินเจินลดลง 0.5% yoy เป็นการหดตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2557 หลังทางการเริ่มใช้มาตรการควบคุมการซื้อบ้านหลังที่ 1 และ 2
เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลางมาเลเซียเข้าแทรกแซงค่าเงิน: ธนาคารกลางมาเลเซีย ได้เข้าแทรกแซงค่าเงิน หลังค่าเงินริงกิตมาเลเซียเกิดความผันผวน ขณะที่ตลาดเริ่มกังวลว่าธนาคารกลางอาจกลับมาใช้มาตรการ Capital Control อีกครั้ง เพื่อสกัดกั้นการไหลออกของเงินทุนต่างชาติ
ไทย
ไม่มี
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 21 พ.ย. 2559
ข่าวเด่น