กรมการขนส่งทางบก แนะนำ!!! การซื้อขายรถควรดำเนินการโอนทางทะเบียน พร้อมนำรถเข้าตรวจสอบความถูกต้องด้วยตนเอง ณ สำนักงานขนส่งที่จดทะเบียน ย้ำ!!! อย่าซื้อขายโดยวิธีการโอนลอย เสี่ยงอาจเป็นรถที่ได้มาด้วยวิธีไม่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วนำมาสวมซากสวมทะเบียนหลอกลวงประชาชน
นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ปัญหาการหลอกลวงประชาชนขายรถสวมซากสวมทะเบียน มักเกิดขึ้นกับการซื้อขายรถด้วยวิธีการโอนลอยที่ผู้ซื้อไม่นำรถไปดำเนินการตรวจสภาพรถและจดทะเบียนด้วยตนเองตามขั้นตอนของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งทำให้เกิดช่องว่างให้กลุ่มมิจฉาชีพนำรถโจรกรรมมาหลอกขาย โดยอาจเกิดขึ้นได้ในลักษณะต่างๆ เช่น รถได้มาอย่างผิดกฎหมาย ตอกเลขตัวถัง เครื่องยนต์ใหม่ และทำคู่มือเอกสารการโอนปลอม หรือซื้อซากรถที่ใช้งานไม่ได้แล้วแต่ยังมีทะเบียนถูกต้อง เพื่อนำรถรุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน มาสวมทะเบียนแทน โดยทำการเปลี่ยนแปลงขึ้นใหม่ทั้งเลขตัวถังและเลขคัสซีให้ตรงกับเอกสาร
ส่วนอีกวิธีคือสวมทะเบียนเฉพาะป้าย โดยจะปลอมป้ายทะเบียน เครื่องหมายเสียการเสียภาษี รวมทั้งปลอมคู่มือประจำรถ ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานปลอมแปลงหรือใช้เอกสารราชการปลอม ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี ปรับสูงสุด 10,000 บาท และกรมการขนส่งทางบกจะเพิกถอนการจดทะเบียนรถทันที นอกจากนี้ ยังอาจมีความผิดตามมาตรา 11 ประกอบมาตรา 60 แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ที่กำหนดให้รถทุกคันต้องมีและติดแผ่นป้ายทะเบียนและเครื่องหมายการเสียภาษีที่ทางราชการออกให้เท่านั้น ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเบื้องต้นเพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงนำรถผิดกฎหมายมาโอนขาย กรมการขนส่งทางบกแนะนำให้ผู้ซื้อตรวจสอบแหล่งที่มาของรถก่อนตัดสินใจ ตรวจสอบเลขตัวถังและเลขเครื่องยนต์ตรงกับเอกสารหรือไม่ รวมทั้งป้ายวงกลมและป้ายทะเบียนติดหน้าหลังรถตรงกันหรือไม่ ตรวจสอบสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ ตรวจสอบลำดับครอบครองต้องไล่เรียงกัน หากมีการแจ้งหายทำเล่มใหม่ มีประวัติแจ้งย้ายหลายจังหวัด ให้เพิ่มความระมัดระวัง ทั้งนี้ การซื้อรถควรซื้อต่อจากคนรู้จักที่ไว้วางใจได้ หรือถ้าเป็นเต้นท์รถมือสอง ควรตรวจสอบหลักฐานทะเบียนรถจากเจ้าของรถหรือผู้ขายมาขอตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นกับสำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสำนักงานขนส่งสาขา และเพื่อเพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้นสามารถนำรถเข้ามาตรวจสอบความถูกต้อง ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสำนักงานขนส่งสาขาที่รถนั้นจดทะเบียน
โดยกรมการขนส่งทางบกได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เข้มงวดกวดขันการตรวจสภาพรถตามรายการที่กำหนดทุกคัน เพื่อป้องกันไม่ให้รถผิดกฎหมายดำเนินการทางทะเบียนได้โดยเด็ดขาด ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะมีการระงับการดำเนินการทางทะเบียนที่ไม่ถูกต้องทันที และหากประชาชนพบเห็นรถต้องสงสัยสามารถแจ้งข้อมูลมายังกรมการขนส่งทางบก หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตรวจสอบและคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย และป้องกันการตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพได้อย่างทันท่วงที รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
ข่าวเด่น