'โกลเบล็ก'ชี้หุ้นไทยขานรับตัวเลข GDP โต 3.2% หนุนดัชนีแตะ 1,500 จุด แนะเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณ SET50 รอบใหม่ชู GL-THAI-BJC
บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยได้แรงบวกจากตัวเลข GDP ไตรมาส 3/2559 โต 3.2% รวมทั้งราคาน้ำมันฟื้นตัว จากแรงเก็งกำไรการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.นี้ คาดรัสเซียพร้อมที่จะตรึงกำลังการผลิต หนุนดัชนีปรับขึ้นทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,495 – 1,500 จุด แนะลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน หุ้นที่ได้อานิสงส์จากราคายางพาราทำ High ในรอบ 1 ปี ชู STA-TRUBB และเก็งกำไรหุ้นที่นำเข้าคำนวณ SET50 รอบใหม่ชู GL-THAI-BJC ด้านราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวหลังลงต่อเนื่องก่อนนี้ แต่ยังคงจับตาปัจจัยเฟดขึ้นดอกเบี้ย โดยมีแนวรับ 1,200-1,195 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,240-1,245 เหรียญต่อทรอยออนซ์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากที่สภาพัฒน์ฯเปิดเผยว่า GDP ในช่วง Q3/59 ขยายตัว 3.2% จากการใช้จ่ายครัวเรือน และการลงทุนภาครัฐที่ขยายตัวดี ประกอบกับการส่งออกกลับมาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้สภาพัฒน์ฯคาด GDP ปี 59 จะโต 3.2% และ ปี 60 คาดโต 3-4% จากการส่งออก ลงทุนรัฐ การท่องเที่ยวและเกษตรฟื้น
รวมถึงMSCI เพิ่มน้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นไทยจาก 2.2% เป็น 2.29% และราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น หลังรัสเซียพร้อมที่จะตรึงกำลังการผลิตน้ำมัน รวมถึงคาดการณ์การประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พ.ย. จะได้ข้อสรุปลดกำลังการผลิตน้ำมันลง
ทั้งนี้ ยังคงมีความกังวลจาก FED ที่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13 – 14 ธ.ค. เนื่องจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อและการจ้างงานแข็งแกร่ง และ Foreign เป็น Net Sell เดือนพ.ย. 2.8 หมื่นลบ. และตั้งแต่เดือนต.ค. เป็น Net Sell 4.6 หมื่นลบ.
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 24 พ.ย. (ช่วงเช้า) FOMC เปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 1-2 พ.ย. วันที่ 30 พ.ย. กำหนดประชุมโอเปกที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยในวันที่ 30 พ.ย.
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นหลังคาดการณ์ว่าการประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.จะได้ข้อสรุปการปรับลดกำลังการผลิตลง อีกทั้งคาดการณ์ตัวเลข GDP ไทยปี59 จะเติบโตได้ตามเป้าที่ 3.2% ซึ่งเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุน อย่างไรก็ตาม Fund flow ที่ไหลออกต่อเนื่องเป็นแรงกดดันที่ยังคงอยู่
ดังนั้นประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นแบบซิกแซก(มีสลับพักตัว)เพื่อทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,495 – 1,500 จุด ทั้งนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy ได้แก่ กลุ่มพลังงาน ซึ่งได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นแรง กลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากราคายางพาราทำ High ในรอบ 1 ปี แนะนำ STA และTRUBB และหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณ SET50 รอบใหม่ แนะนำ GL THAI และ BJC
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังปรับลงต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้าแต่ยังคงมีปัจจัยกดดันจากความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมช่วง 13-14 ธ.ค.นี้ หลังนายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน และ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ รวมถึงนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม
ขณะที่ล่าสุดนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมของสภาคองเกรสว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในไม่ช้าและจะมีความเสี่ยงหากเฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป ประกอบกับที่มีกระแสคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในประเด็นการปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.นี้ รวมถึงมุมมองที่เป็นบวกต่อนโยบายด้านเศรษฐกิจของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ จะลดความน่าสนใจการลงทุนในตลาดทองคำ
สำหรับแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค เริ่มฟื้นตัวสร้างแท่งเทียนสัญญาณบวกหลังลงมาใกล้จบแนวลงรูปแบบ ROUNDING TOP ประกอบกับค่าสัญญาณ RSI ปรับขึ้นจากภาวะขายมากและมีภาวะ BULLISH DIVERGENCE เกิดขึ้นพร้อมกันเป็นแรงหนุนเสริมทำให้ราคามีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ โดยมีแนวรับ 1,200-1,195 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,240-1,245 เหรียญต่อทรอยออนซ์
ข่าวเด่น