HREITปลื้มนักลงทุนแห่จองซื้อกองทรัสต์ เกลี้ยง !! ชูผลตอบแทนในปีแรก 7.75% พร้อมเทรด 28 พ.ย.นี้
ธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย - บริษัท เหมราช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการ “ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) ปลื้มผู้ถือหน่วยทรัสต์ WHART ใช้สิทธิในการจองซื้อ HREIT ขณะที่ กลุ่มนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนผู้มีอุปการคุณของผู้จัดจำหน่าย มีความต้องการในการจองซื้อสูง ระบุ เป็นผลจากความโดดเด่นอัตราผลตอบแทนในปีแรก ถึง 7.75% พร้อมชูจุดเด่น การลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดิน อาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูปคุณภาพสูงของนิคมอุตสาหกรรมเหมราช และเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อีสเทิร์นซีบอร์ด (จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง) ที่ถือเป็นจุดยุทธ์ศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรม และโลจิสติกส์ของประเทศ เตรียมเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 28 พ.ย. 59 นี้
นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สาย Primary Distribution ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย “ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT)” ว่า หลังจากเปิดจองซื้อหน่วยทรัสต์ HREIT ให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์ WHART ระหว่างวันที่ 9 -11 และ 14 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา รวมถึงการเสนอขายต่อ ผู้มีอุปการคุณของกลุ่มบริษัทเจ้าของทรัพย์สิน นักลงทุนสถาบัน และผู้มีอุปการคุณของผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ และตัวแทนจำหน่ายหน่วยทรัสต์ ระหว่างวันที่ 15-18 พฤศจิกายน 2559ที่ผ่านมา ในราคา 10 บาทต่อหน่วย ถือว่าได้รับการตอบเป็นอย่างดี จึงทำให้ยอดการจองซื้อหน่วยทรัสต์ HREIT หมดไม่เพียงพอต่อความต้องการ
สำหรับสาเหตุที่ หน่วยทรัสต์ดังกล่าวมีจองใช้สิทธิในการจองซื้อสูง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก อัตราผลตอบแทนของกองทรัสต์ HREIT ที่ประเมินไว้ในปีแรกเท่ากับร้อยละ 7.75 (ซึ่งประกอบด้วยประมาณการอัตราผลตอบแทนสุทธิ (Net Yield) ร้อยละ 6.07 ประมาณการการแบ่งส่วนทุนจากรายการที่ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินสดร้อยละ 0.01 และประมาณการเงินคืนทุนที่ถูกทยอยคืนแบบเส้นตรงร้อยละ 1.67 ซึ่งหากพิจารณาจากอัตราผลตอบแทนในข้างต้นจะเห็นได้ว่า HREIT มีการจ่ายผลตอบแทนที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้ลงทุนได้อย่างน่าพึงพอใจ
ทั้งนี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย “ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช” เชื่อมั่นว่า จากจุดเด่นทั้งในด้านทรัพย์สิน และด้านทำเลที่ตั้งที่อยู่ในแหล่งนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรมหลักของประเทศและระดับภูมิภาค ซึ่งคาดว่าจะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อาทิ แผนสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจชายฝั่งตะวันออก และแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ อีกทั้ง ยังอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของเหมราช ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมรายใหญ่ของประเทศ ที่มีประสบการณ์ยาวนาน และมีชื่อเสียงเป็นที่ไว้วางใจของลูกค้าผู้ประกอบการอุตสาหกรรม HREIT จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันแรกในวันที่ 28 พฤศจิกายน2559
ด้าน นายเผ่าพิทยา สมุทรกลิน กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เหมราช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ HREIT กล่าวว่า หลังจากที่เปิดให้สิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) ในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าได้กระแสการตอบรับจากผู้ถือหน่วยWHART รวมถึงนักลงทุนสถาบัน ดีเกินคาด ทั้งนี้คงเป็นผลจากความเชื่อมั่นในศักยภาพการบริหาร รวมถึงมีความโดดเด่นของกองทรัสต์ ที่เป็นทางเลือกในการลงทุนที่ดีสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะจากผลตอบแทนการลงทุนที่สม่ำเสมอ จากสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารโรงงานและคลังสินค้าเป็นเวลา 30 ปี และโอกาสในการต่อสัญญาอายุการเช่าอีก 30 ปี รวมเป็น 60 ปี ซึ่งสามารถส่งต่อการลงทุนถึงลูกหลานได้
อย่างไรก็ตาม อาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูป ที่กองทรัสต์ HREIT จะเข้าไปลงทุนนั้น ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ของอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และโลจิสติกส์ เป็นต้น อีกทั้งทรัพย์สินที่กองทรัสต์เข้าลงทุนบางส่วน ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตประกอบการเสรี (IEAT Free Zone)
ซึ่งได้รับสิทธิประโยชน์ในการลงทุนจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) หรือตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมซึ่งมีโอกาสได้รับสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จึงทำให้ทรัพย์สินที่กองทรัสต์จะเข้าลงทุนในครั้งแรกนี้ มีความน่าสนใจและสามารถดึงดูดผู้เช่าที่เป็นผู้ประกอบการชั้นนำทั้งในและต่างประเทศได้เป็นอย่างดี
“ กองทรัสต์ HREIT จะลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดิน อาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูปใน 6 โครงการที่กระจายอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและระยอง คิดเป็นพื้นที่เช่ารวม 261,314 ตารางเมตร แบ่งเป็นอาคารโรงงาน 167,372 ตารางเมตร และอาคารคลังสินค้า 93,942 ตารางเมตร ประกอบด้วย 1.อาคารโรงงานในโครงการนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง), 2.อาคารโรงงานในโครงการนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด, 3.อาคารโรงงานในโครงการนิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี,4.อาคารคลังสินค้าในโครงการเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค 1, 5.อาคารคลังสินค้าในโครงการเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค 2 และ 6. อาคารคลังสินค้าในโครงการเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค 4 ” นายเผ่าพิทยา กล่าว
ข่าวเด่น