พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ครั้งที่ 4/2559 เพื่อขับเคลื่อนติดตามการปฏิบัติงานการต่อต้านการค้ามนุษย์ ตามนโยบายของรัฐบาล
วันนี้ (24 พฤศจิกายน 2559) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ครั้งที่ 4/2559 เพื่อขับเคลื่อนติดตามการปฏิบัติงานการต่อต้านการค้ามนุษย์ ตามนโยบายของรัฐบาล
ประธานได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ปัญหาการค้ามนุษย์ที่มีความเชื่อมโยงกับปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ทำให้การแก้ไขปัญหามีความซับซ้อน ยากลำบาก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะมุ่งมั่นในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดำเนินคดีและบังคับใช้กฎหมาย และการจัดเก็บข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน ซึ่งสามารถใช้การได้อย่างทันท่วงที พร้อมกันนี้ประธานได้สั่งการเร่งรัดการดำเนินงานในช่วง 2 เดือนต่อจากนี้ ก่อนที่จะจัดส่งรายงานการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ประจำปีของประเทศไทย (TIP Report) ต่อสหรัฐฯ โดยให้เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินคดี ดังนี้
1. ในเรื่องการดำเนินคดีให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานอัยการสูงสุด ประสานงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินคดีทั้งระบบ เกิดความรวดเร็ว ถูกต้อง เป็นธรรม และนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ
2. ในด้านการดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพหลักในการสัมภาษณ์ โดยให้กระทรวง พม. และกระทรวงแรงงาน สนับสนุนเจ้าหน้าที่และล่าม เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการสัมภาษณ์ ซึ่งเป็นกระบวนเบื้องต้นในการดำเนินคดีและช่วยเหลือผู้เสียหาย
3. ด้านการเตรียมการจัดทำรายงานประจำปี 2559 ที่จะส่งให้สหรัฐฯ ได้มอบให้กระทรวง พม. และกระทรวงการต่างประเทศ เป็นเจ้าภาพหลักในจัดทำรายงาน โดยขอให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการดำเนินงานในทุกมิติ และให้จัดทำข้อมูลความคืบหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของสหรัฐฯ เป็นส่วนหนึ่งของการจัดทำรายงานด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ให้เป็นภารกิจสำคัญและเป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกหน่วยงานราชการจะต้องมุ่งมั่นและบูรณาการการทำงาน มุ่งเน้นผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม โดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตามหลักสิทธิมนุษยชน และประโยชน์ของผู้เสียหาย โดยไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้ จะได้ติดตามผลการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดต่อไป
ข่าวเด่น