แนวโน้มราคาทอง (25 พ.ย.59) โดย YLG Bullion International
สภาวะตลาดวันที่ 24 พฤศจิกายน 2559
ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,180.99-1,189.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 350 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,450 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ16 อยู่ที่ 20,160 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 380 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,540 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.38 น.ของวันที่ 24/11/16)
แนวโน้มวันที่ 25 พฤศจิกายน 2559
สมาชิกผู้มีสิทธิออกเสียงในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) แสดงให้เห็นว่า ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีความเชื่อมั่นในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังทวีความแข็งแกร่งขึ้นในระดับที่มากพอที่จะสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ประเด็นดังกล่าวระบุไว้ในรายงานการประชุมกำหนดนโยบายประจำวันที่ 1-2 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่เฟดไม่ได้มองว่า ชัยชนะของนายทรัมป์จะส่งผลกระทบมากนักต่อการกำหนดนโยบายในระยะใกล้
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เฟดกล่าวเตือนว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ถ้าหากยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐพุ่งสูงขึ้นในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้แนวโน้มดอลลาร์สหรัฐมีโอกาสแข็งค่าขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะปรับสูงขึ้น และปัจจัยนี้ก็กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำออกมา หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตเร็วขึ้นในช่วงต้นไตรมาส 4 และ บริษัทซีเอ็มอีระบุว่า ขณะนี้นักลงทุนคาดว่ามีโอกาสเกือบ 100% ที่เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. และนักลงทุนบางรายคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปี 2017 ถ้าหากเศรษฐกิจสามารถรักษาความแข็งแกร่งได้ต่อไป
ทั้งนี้แนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้หาจังหวะซื้อเล่นสั้นเมื่อราคาย่อตัวลงไปและไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และปิดสถานะทำกำไรหากราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,195-1,203 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ ราคาทองคำอาจจะอ่อนตัวลงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายอาจจะเบาบางในวันศุกร์นี้เนื่องจากตลาดสหรัฐจะเปิดทำการเพียงครึ่งวัน
กลยุทธ์การลงทุน
วายแอลจีมีมุมมองว่า ในระยะสั้นหากราคาทองคำอาจขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,195-1,203 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง ซึ่งหากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณดังกล่าว และรอไปขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปหรือตามบริเวณแนวต้านต่างๆ อย่างไรก็ตามวายแอลจีเน้นย้ำว่านักลงทุนระยะสั้นควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุน และปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,175 (19,800บาท) 1,162 (19,600บาท) 1,150 (19,400บาท)
แนวต้าน 1,195 (20,130บาท) 1,203 (20,280บาท) 1,214 (20,470บาท)
GOLD FUTURES (GFZ16)
แนวรับ 1,175 (19,950บาท) 1,162 (19,730บาท) 1,150 (19,520บาท)
แนวต้าน 1,195 (20,270บาท) 1,203 (20,420บาท) 1,214 (20,600บาท)
โดย บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ประจำวันที่ 24 พ.ย. 2559
พลังงานร่วงหรือรุ่ง...ในยุคทรัมป์?
ข่าวเด่น