คนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานานและได้รับการผ่อนผันเป็นกรณีพิเศษ รวมถึงบุตรที่เกิดในประเทศไทย และคนต่างด้าวที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สัญชาติไทยสามารถขอรับใบอนุญาตเพื่อทำงานได้ทุกประเภทงาน โดยยื่นขอใบอนุญาตทำงานได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ เสียค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอ 100 บาท
นายสิงหเดช ชูอำนาจ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้ประกาศให้คนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน และได้รับการผ่อนผันเป็นกรณีพิเศษ รวมถึงบุตรที่เกิดในประเทศไทย และคนต่างด้าวที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สัญชาติไทยตามกฎหมายสัญชาติให้สามารถทำงานได้ตามความรู้ ความสามารถได้ทุกประเภทงานนั้น กรมการจัดหางานขอแจ้งให้ทราบว่า หากคนต่างด้าวกลุ่มดังกล่าวประสงค์จะทำงาน จะต้องยื่นขอรับใบอนุญาตทำงาน ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1) ขออนุญาตออกนอกเขตพื้นที่ โดยในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครไปแจ้งความจำนงโดยยื่นคำขอต่อปลัดกระทรวงมหาดไทย หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย สำหรับในท้องที่จังหวัดอื่น กรณีออกนอกเขตจังหวัดให้ไปแจ้งความจำนง โดยยื่นคำขอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอหรือปลัดอำเภอหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ณ ที่ทำการปกครองอำเภอ
2) ยื่นคำขอรับใบอนุญาตทำงาน (ต.ท.7) พร้อมเอกสาร เช่น สำเนาเอกสารรับรองวุฒิการศึกษา หรือหนังสือรับรองของผู้เคยเป็นนายจ้างว่ามีความรู้ ประสบการณ์เหมาะสมกับงานที่ขอรับใบอนุญาต หนังสือรับรองการจ้าง ใบรับรองแพทย์ แผนที่แสดงที่ตั้งของสถานที่ทำงาน สำเนาบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย หรือสำเนาบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน สำเนาหนังสืออนุญาตให้ออกนอกเขตที่พักอาศัย รูปถ่ายขนาด 3X4 เซนติเมตร เป็นต้น
ทั้งนี้ ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำงานของคนต่างด้าว แต่เรียกเก็บได้เฉพาะค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอ จำนวน 100 บาท โดยยื่นขออนุญาตทำงานได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัด และสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมการจัดหางาน โทร.1694
นายสิงหเดชฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันคนต่างด้าวกลุ่มดังกล่าวได้รับอนุญาตทำงานจำนวน 27,451 คน (ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2559) โดยประเภทอาชีพที่ได้รับอนุญาตทำงานมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ งานกรรมกร งานทำสวนผักและผลไม้ และงานซักรีดเสื้อผ้า ซึ่งจังหวัดที่มีคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และเชียงราย
ข่าวเด่น