นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินงานปรับปรุงพื้นที่อนุรักษ์บริเวณป้อมมหากาฬว่า ตามที่เครือข่ายภาคประชาสังคมและนักวิชาการเพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูเมือง ยื่นหนังสือต่อรองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 59 เพื่อขอความช่วยเหลือและหารือกรณีชุมชนป้อมมหากาฬโดยให้หยุดรื้อถอนอาคารบริเวณชุมชน และขอให้จัดตั้งคณะกรรมการพหุภาคีเพื่อแก้ไขปัญหาและอนุรักษ์พัฒนาชุมชนป้อมมหากาฬรวมทั้งชุมชนย่านเมืองเก่าอย่างมีส่วนร่วมนั้น คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ได้ประชุมเพื่อพิจารณาข้อเสนอดังกล่าวเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 59 ที่ผ่านมา โดยมีมติให้กรุงเทพมหานครดำเนินการรื้อถอนอาคารในชุมชนป้อมมหากาฬต่อไป เนื่องจากที่ดินทั้งหมดในบริเวณป้อมมหากาฬทั้งหมดตกเป็นของกรุงเทพมหานครโดยการเวนคืนตามกฎหมายถือเป็นพื้นที่สาธารณะและมีกฎหมายบังคับใช้ให้ต้องปฏิบัติ โดยให้ดำเนินการรื้อถอนในปลายเดือน ม.ค. 60 จนกว่าจะแล้วเสร็จ
สำหรับกรณีที่เครือข่ายขอให้ตั้งคณะกรรมการพหุภาคีทางคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปฯ เห็นว่าเป็นข้อเสนอ ที่ไม่ใช่ประเด็นที่จะมาพิจารณา เนื่องจากโดยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแล้ว ชุมชนไม่สามารถอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวได้ ในขณะเดียวกันพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬ กรุงเทพมหานครมีโครงการที่จะพัฒนาเป็นสวนสาธารณะในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของพื้นที่บริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ พร้อมทั้งจัดให้มีพื้นที่สันทนาการ แหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม วิถีชีวิตรอบเกาะรัตนโกสินทร์ และกิจกรรมต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางตามข้อเสนอของเครือข่าย นอกจากนี้กรุงเทพมหานครจะช่วยเหลือและสนับสนุนรับชาวชุมชนเป็นลูกจ้างเพื่อทำหน้าที่ดูแลสวนสวนสาธารณะ รวมทั้งเป็นผู้เผยแพร่ เล่าเรื่องราวพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬ โดยมีเงื่อนไขว่าชุมชนไม่สามารถอยู่ในพื้นที่ได้ ส่วนกรณีการขอเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนในบริเวณพื้นที่ย่านเมืองเก่านั้น เครือข่ายฯสามารถยื่นข้อเสนอโดยตรงต่อคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบดูแลในเรื่องนี้และมีภาคส่วนต่างๆ ร่วมเป็นคณะกรรมการอยู่แล้ว
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครจะดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ที่เป็นแกนนำและจัดทำหนังสือตอบกลับข้อเสนอของเครือข่ายภาคประชาสังคมและนักวิชาการเพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูเมือง รวมทั้งติดตั้งป้ายประกาศบริเวณชุมชนป้อมมหากาฬเพื่อแจ้งมติของคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปฯ ให้ชาวชุมชนรับทราบอย่างทั่วถึงและชัดเจนต่อไป ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้มีชาวชุมชุนรื้อย้ายออกไปแล้วจำนวน 19 หลัง จากเดิม 56 หลัง คงเหลืออีก 37 หลัง และมีการสร้างใหม่อีก 5 หลัง ซึ่งเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 59 มีผู้ประสงค์จะย้ายอีก 3 หลัง และรื้อถอนโรงเรือนสิ่งปลูกสร้างจำนวน 1 หลัง แต่เนื่องจากวันดังกล่าวประชาชนทั้งประเทศโศกเศร้ากับการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงได้ชะลอการดำเนินการไว้ก่อน โดยคาดว่าจะมีการดำเนินการต่อไปในช่วงปลายเดือนมกราคม 2560
.jpg)
ข่าวเด่น