ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังซาอุดิอาระเบียประกาศถอนตัวออกจากการประชุมกับผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก
(-) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวลดลงเกือบร้อยละ 4 จากความกังวลว่ากลุ่มโอเปกจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตมาอยู่ที่ระดับ 32.5 -33.0 ล้านบาร์เรลต่อวันได้หรือไม่ หลังซาอุดิอาระเบียประกาศถอนตัวออกจากการประชุมกับกลุ่มผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกที่จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 28พ.ย. นอกจากนี้การซื้อขายค่อนข้างเบาบางหลังวันหยุดขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) และก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
(-) ซาอุดิอาระเบียกล่าวกับกลุ่มโอเปกว่า ซาอุดิอาระเบียจะไม่เข้าร่วมการประชุมกับประเทศนอกกลุ่มโอเปกที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เนื่องจากมองว่าควรมีการตกลงในเรื่องของการลดกำลังการผลิตกันภายในกลุ่มโอเปกเสียก่อน ก่อนที่จะเริ่มเจรจากับกลุ่มผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก ดังนั้นการประชุมในวันจันทร์นี้ จะปรับเปลี่ยนเป็นการประชุมกันภายในกลุ่มโอเปกแทน
(-) มีรายงานว่า บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ Saudi Aramcoประเทศซาอุดิอาระเบีย อาจจะเพิ่มการส่งมอบน้ำมันมายังเอเชียในเดือนม.ค. ปีหน้า เนื่องจากต้องการที่จะรักษาส่วนแบ่งการตลาด นอกจากนี้ตัวเลขการนำเข้าน้ำมันดิบจากจีนในเดือนต.ค. ยังปรับลดลงแตะระดับที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. ยังเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันดิบ
(+/-) นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างคาดว่าโอเปกจะสามารถปรับลดกำลังการผลิตลงได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ยังคงกังวลว่าการปรับลดลงดังกล่าวจะเพียงพอที่จะบรรเทาภาวะอุปทานล้นตลาดในปัจจุบันได้หรือไม่
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดซบเซาในวันสุดท้ายของสัปดาห์ ถึงแม้ว่าจะมีเหตุเพลิงไหม้หน่วยผลิตน้ำมันเบนซินของโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ในประเทศอินเดียและแรงหนุนจากความต้องการเพิ่มเติมจากประเทศอินโดนีเซียก็ตาม
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังถูกกดดันจากปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลจากประเทศญี่ปุ่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จากสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีราคาน้ำมันดีเซลยังคงได้รับแรงหนุนจากความต้องการเพิ่มเติมจากประเทศแอฟริกาใต้อยู่
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ45-50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พ.ย. นี้ โดยตลาดคาดว่ากลุ่มโอเปกจะสามารถตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตมาอยู่ที่ระดับ 32.5 -33.0ล้านบาร์เรลต่อวันได้ ภายหลังประเทศภายในกลุ่มโอเปกมีท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้น ข้อเสนอปัจจุบันคือแต่ละประเทศ ยกเว้นลิเบียและไนจีเรีย จะมีการปรับลดกำลังการผลิตลงราวร้อยละ 4.0 -4.5ในขณะที่ รัสเซียออกมากล่าวสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าวและคาดจะคงกำลังการผลิตไว้ที่ระดับเดิม
ภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดในสหรัฐฯ เริ่มคลี่คลายและส่งกดดันต่อราคาลดลง หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันดิบในสหรัฐฯ กลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงและเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุดวันที่ 17พ.ย. 2559ปรับตัวลดลง 1.3ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น หลังปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 158 แท่นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา หลังราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวแตะระดับ 45 -50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 25 พ.ย. ปรับเพิ่ม 3 แท่นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ระดับ 474แท่น
โดย หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ประจำวันที่ 28 พ.ย. 2559
ข่าวเด่น