กฟผ. ชี้แจงโครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทน 4-7 ประมูลได้โรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ขณะที่สามารถควบคุมมลสารได้ดีขึ้น ภายใต้งบประมาณเท่าเดิม แต่เนื่องจากขนาดกำลังผลิตตามสเปคของโรงไฟฟ้าใหญ่ขึ้น 55 เมกะวัตต์ จึงต้องทำ EHIA ใหม่ตามขั้นตอนของกฎหมาย
นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ และโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ตามที่โครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เครื่องที่ 4 -7 จ.ลำปาง ได้มีการจัดทำรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ใหม่ เนื่องจากผลการประกวดราคาได้โรงไฟฟ้าขนาดกำลังผลิต 655 เมกะวัตต์ ซึ่งสูงกว่า 600 เมกะวัตต์ในการจัดทำรายงาน EHIA ครั้งแรก เนื่องจากเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมดีขึ้น และอยู่ภายใต้งบประมาณเดิม อย่างไรก็ตาม กำลังผลิตติดตั้งที่เปลี่ยนแปลงดังกล่าว จะต้องมีการจัดทำรายงาน EHIA ใหม่ด้วย
.jpg)
สำหรับโครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เครื่องที่ 4-7 มีค่าควบคุมการระบายมลสารที่ปากปล่องโรงไฟฟ้าที่ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โดยการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) 236 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากค่ามาตรฐาน 471 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx) 169 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากค่ามาตรฐาน 376 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และฝุ่นละออง 30 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากค่ามาตรฐาน 80 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะเห็นได้ว่าโครงการฯ ใหม่มีการควบคุมการระบายมลสารอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน และดีกว่าโรงไฟฟ้าแม่เมาะ 4 -7 เดิม
.jpg)
.jpg)
.jpg)
อนึ่ง การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบและสุขภาพ (ค.1) ได้มีกำหนดจัดขึ้นแล้วในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการ กฟผ.แม่เมาะ จ.ลำปาง และได้มีประชาชนจำนวนหนึ่งรวมตัวกันชุมนุมอภิปรายในประเด็นความกังวลเรื่องผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม กฟผ. จึงเลื่อนการรับฟังความคิดเห็นออกไปก่อนเพื่อทำความเข้าใจกับชุมชน และประชาสัมพันธ์การดำเนินการดังกล่าวอีกครั้ง โดย กฟผ. จะเชิญกลุ่มผู้นำชุมชนทุกกลุ่มมาหารือกันถึงแนวทางการจัดรับฟังความคิดเห็นครั้งต่อไป
ข่าวเด่น