+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับแรงหนุนจากข่าวการบรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตกลุ่ม โอเปกในวันที่ 30 พ.ย. นอกจากนี้นักวิเคราะห์ยังจับตาดูการประชุมระหว่างผู้ผลิตกลุ่มโอเปก และนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 10 ธ.ค. ณ กรุงเวียนนา เพื่อที่จะบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก โดยในการประชุมนี้กลุ่มโอเปกคาดหวังว่า ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกจะให้ความร่วมมือปรับลดกำลังการผลิตลงราว 600,000 บาร์เรลต่อวัน
+ นาย Bijan Namdar Zanganeh รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันอิหร่านคาดว่าจะเข้าร่วมการประชุมในวันที่ 10 ธ.ค. นี้เช่นเดียวกับเม็กซิโก หลังนาย Pedro Joaquin Coldwell รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานเผยว่าเม็กซิโกจะเข้าร่วมการประชุมนี้ด้วยเช่นกัน
+ นาย Mohammed Barkindo เลขาธิการกลุ่มโอเปกคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบโลกใน ปี 2560 จะเติบโตราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ถึงแม้ว่าจะมีการตกลงปรับลดกำลังการผลิต ซึ่งอาจทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม นอกจากนี้นาย Mohammed Barkindo ยังกล่าวอีกว่า ภูมิภาคเอเชียจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันดิบโลก
- อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ยังคงกังวลว่า การปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตกลุ่มโอเปกครั้งนี้อาจถูกชดเชยด้วยการเพิ่ม ขึ้นของปริมาณการผลิตในสหรัฐฯ หลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบรายงานโดย Baker Hughes สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 2 ธ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 3 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 477 แท่น
- ซาอุดิอาระเบียปรับลดราคาขายน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการ (OSP) สำหรับราคาน้ำมันดิบชนิด Arab Light ให้แก่ลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งอาจหมายถึงประเทศยังคงต้องการรักษาส่วนแบ่งในตลาด
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์จากอินโดนีเซีย อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันเบนซินยังถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปชนิดเบาคงคลังของ สิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นสามสัปดาห์ติดต่อกัน แตะระดับ 12.89 ล้านบาร์เรล สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย.
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนที่มีแนวโน้มปรับตัว ลดลง เนื่องจากความต้องการใช้ภายในประเทศปรับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ราคาน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากแรงซื้อของเวียดนาม และอียิปต์
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 49-54 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 51-56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ภาวะอุปทานโลกล้น ตลาดมีแนวโน้มคลี่คลายลง หลังในการประชุมกลุ่มโอเปกวันที่ 30 พ.ย. กลุ่มโอเปกสามารถบรรลุข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตลงราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งนับเป็นการตกลงกันครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 โดยการปรับลดกำลังการผลิตนำโดย ซาอุดิอาระเบีย อิรัก คูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อย่างไรก็ตาม ทางด้านอิหร่าน ลิเบีย และ ไนจีเรียได้รับการยกเว้นการปรับลดกำลังการผลิต
จับตาดูการประชุมระหว่างผู้ผลิตกลุ่มโอเปก และนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 10 ธ.ค. เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงลดกำลังการผลิตของ
ผู้ ผลิตนอกกลุ่มโอเปก โดยกลุ่มโอเปกเสนอให้ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกปรับลดกำลังการผลิตลงทั้งสิ้นราว 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยคาดว่ากว่า 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาจากการปรับลดกำลังการผลิตของรัสเซีย
ข่าวเด่น