ตลาดหุ้นไทยวานนี้
  

SET INDEX วานนี้ขยับขึ้นเด่นในช่วงบ่ายผลักดันด้วยหุ้นหลักอย่าง PTT/ AOT / SCC/ BDMS เป็นต้น ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมทั้งในและต่างประเทศไม่มีความโดดเด่น SET INDEX ทะลุแนว 1,510 จุด ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,516.48 จุด บวก 14.82 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 39,685 ล้านบาท
  

ทั้งนี้ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย 1,247 ล้านบาท กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 878 สัญญา แต่ขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 เพียง 47 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้
  

เตรียมปรับครม. หลังโปรดเกล้าฯ ให้รมว. 2 คน เป็นองคมนตรี
  

ติดตามการประชุมครม.วันนี้ คาดพิจารณาโครงการ ช็อปช่วยชาติ #2
  

DJIA ทำระดับปิดสูงสุดใหม่อีกครั้ง นำโดยกลุ่มธนาคาร และเทเลคอม

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง – Sideways (วันที่ 20)
  

เราประเมินว่า SET INDEX มีโอกาสขยับขึ้นทดสอบด่าน 1,520 จุดได้ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ด้วยแรงเก็งกำไรต่อการประชุม ECB ที่จะมีขึ้นในค่ำวันพรุ่งนี้ และมีโอกาสที่ ECB จะขยายเวลาโครงการ QE ออกไปจากปัจจุบันสิ้นสุดเดือนมี.ค. 2560 ทำให้สภาพคล่องทางการเงินในระบบการเงินโลกจะยังคงล้นมากขึ้นต่อไป ขณะที่เฟดจะเป็นธนาคารกลางหลักธนาคารกลางเดียวที่เลือกขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14 ธ.ค. และอีก 2 ครั้งในปีหน้า ตาม Dot Plot ที่ให้ไว้ล่าสุด
  

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ การประชุมครม.เลื่อนมาพิจารณาในวันนี้ เราเชื่อว่าจะมีการพิจารณาโครงการ “ช็อปช่วยชาติ#2” วงเงิน 15,000 บาท ระหว่างวันที่ 15-31 ธ.ค. ย่อมเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีกที่พักฐานมาในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน รวมถึงจับตาการปรับครม. หลัง โปรดเกล้าฯ รมว.ศึกษาธิการ และ รมว.ยุติธรรมเป็นองคมนตรี คาดว่าจะได้ข้อสรุปจากนายกฯ ภายในสัปดาห์นี้
  

กลยุทธ์การลงทุน “ถือพอร์ตการลงทุน และเข้าสะสมหุ้นหลัก เพื่อรอขายบริเวณ 1,550 จุดในช่วงปลายเดือนนี้ เพราะเชื่อว่าเม็ดเงินจาก LTF / RMF สูงถึง 4.0 หมื่นล้านในเดือนนี้จะมากพอที่จะผลักดัน SET INDEX ในระลอกสุดท้ายของปีนี้

Strategy of the Day

1. สะสม SCB: ราคาปิด 146.00 บาท ราคาเหมาะสม 169.00 บาท
  

a) นับตั้งแต่การปรับดัชนี MSCI ณ ราคาปิดวันที่ 30 พ.ย. เป็นต้นมา ราคาหุ้น SCB แกว่งในกรอบแคบ 146 บาท +/- ถือเป็นการพักฐานมาระยะหนึ่ง
  

b) มี Catalyst รออยู่ โดยคาดว่าศาลล้มละลายกลางจะอนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการของ SSI ในสิ้นปีนี้ จึงมีโอกาสที่ SCB จะกลับสำรองหนี้สูญ และส่งผลให้ NPL ลดลง และ Coverage Ratio เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
  

c) แนวโน้มกำไรสุทธิปี 2560 คาดว่าจะเติบโต +26.3% yoy เป็น 5.8 หมื่นล้านบาท ด้วย Valuation น่าสนใจ ซื้อขายที่ PER60 เพียง 8.48x และ PBV60 เท่ากับ 1.32x เทียบกับค่าเฉลี่ย 3 ปีซื้อขาย 10.27x และ 1.9x ตามลำดับ

2. เก็งกำไร PSH : ราคาปิด 22.30 บาท ราคาเหมาะสม 31.50 บาท
  

a) PSH ปรับตัวลงตลอดเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา จากขั้นตอนการแปลงหุ้น PS เป็น PSH ทำให้กองทุนบางส่วนขายหุ้น PS ออกเพื่อลดขั้นตอนของเอกสารและการแปลงสภาพ
  

b) อย่างไรก็ตาม PSH จะยังคงอยู่ใน SET50 เราเชื่อว่ากองทุนที่ลดสัดส่วนการลงทุนใน PSH ไปก่อนหน้านี้จะต้องกลับมาสะสม เพื่อรักษาสัดส่วนอิงกับ SET50 Index ในช่วงที่เหลือของปีนี้
  

c) สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงาน PSH ในปี 2560 คาดว่าจะกลับมาเติบโตราว 7% จากปีนี้ที่หดตัว 12% จากภาพรวมอุตฯ ภายใต้ Valuation ที่ต่ำเพียง 6.91x และผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 7% ต่อปี เชื่อว่า downside risk จำกัด ณ ระดับปิดปัจจุบัน