- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนที่ผู้ผลิตกลุ่มโอเปกและรัส เซียจะสามารถปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบได้มากพอ แม้ว่ากลุ่มโอเปกคาดหวังว่า ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกจะให้ความร่วมมือปรับลดกำลังการผลิตลงราว 600,000 บาร์เรลต่อวัน และรัสเซียได้ออกมาเปิดเผยว่าจะปรับลดกำลังการผลิตประมาณ 300,000 บาร์เรลต่อวัน
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 ธ.ค. 59 ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ปรับเพิ่มขึ้น 3.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 52 นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล ในขณะเดียวกัน ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ดี ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งสอดคล้องกับที่สถาบันปิโตรเลียมสหรัฐฯ (API) รายงานเมื่อวันก่อนหน้า
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันของไนจีเรียเปิดเผยว่า ไนจีเรียอาจจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบไปสู่ระดับ 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ม.ค. 60 จากระดับปัจจุบันที่ผลิตน้ำมันดิบที่ระดับ 1.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากคาดว่าอุปทานส่วนเกินไม่น่าจะปรับเพิ่มขึ้นมากนัก หลังคาดการณ์ว่าผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกจะให้ความร่วมมือปรับลดกำลังการผลิตใน การประชุมที่กรุงเวียนนาในวันที่ 10 ธ.ค. นี้ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบขึ้นไปสู่ระดับ 60 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ภายในเดือน ธ.ค. 60
+ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นนิวยอร์กและยุโรปปิดบวก หลังนักวิเคราะห์คาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะขยายเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันนี้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตัวเลขการส่งออกน้ำมันเบนซินของประเทศญี่ปุ่นประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 3 ธ.ค .59 ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 59 อย่างไรก็ดี อุปสงค์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงช่วยหนุนตลาดอยู่
ราคา น้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ในเอเชียยังคงคึกคัก ประกอบกับผู้ผลิตในเอเชียและตะวันออกกลางมีโอกาสในการส่งออกน้ำมันดีเซลไป ยังยุโรปได้มากขึ้น
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 49-54 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 51-56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ภาวะอุปทานโลกล้น ตลาดมีแนวโน้มคลี่คลายลง หลังในการประชุมกลุ่มโอเปกวันที่ 30 พ.ย. กลุ่มโอเปกสามารถบรรลุข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตลงราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งนับเป็นการตกลงกันครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 โดยการปรับลดกำลังการผลิตนำโดย ซาอุดิอาระเบีย อิรัก คูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อย่างไรก็ตาม ทางด้านอิหร่าน ลิเบีย และ ไนจีเรียได้รับการยกเว้นการปรับลดกำลังการผลิต
จับตาดูการประชุม ระหว่างผู้ผลิตกลุ่มโอเปก และนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 10 ธ.ค. เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก โดยกลุ่มโอเปกเสนอให้ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกปรับลดกำลังการผลิตลงทั้งสิ้นราว 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยคาดว่ากว่า 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาจากการปรับลดกำลังการผลิตของรัสเซีย
ข่าวเด่น