Market View : ลุ้น ECB ขยายเวลา QE
Stock of the town : BIZ WICE
หุ้นแนะนำ : SCB
หุ้นมีข่าว : BEM PTTEP HMPRO
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นตลาดในภูมิภาคโดยกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นหนุนตลาด คือกลุ่ม ICT และกลุ่ม Electronic อีกทั้งนักลงทุนต่างประเทศกลับมาซื้อติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ช่วยหนุนให้ SET ปิดที่ 1,520.53 จุด (+4.05 จุด) Vol. 4.5 หมื่นลบ.โดย Foreign Net +278 ลบ. TFEX Net +3,337 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ ตลาด DJ ปรับตัวขึ้นจากคาดการณ์ว่า ECB จะขยายระยะเวลา QE เพิ่มเติมเพื่อสกัดผลกระทบของอิตาลี
+คาด ECB จะยืดเวลาการใช้ QE ออกไปอีก 3-6 เดือนในการประชุมวันนี้
+ แรงซื้อกองทุน LTF RMF ในช่วงปลายปี
+ Foreign เป็น Net Buy 2 วันติดกันรวม 1.5 พันลบ.
- ราคาน้ำมันปรับตัวลงล่าสุด 49.77 US/Barrel จากสต๊อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด
- คาด FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 13 – 14 ธ.ค. ซึ่งอาจกระทบต่อกระแส Fund Flow
ตลาดหุ้นไทยในวันนี้คาดว่าจะได้รับผลบวกจากการประชุม ECB เรื่องมาตรการ QE (คาดขยายเวลาเพิ่ม 3-6 เดือน) อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงยังเป็นปัจจัยกดดัน SET ทำให้ปรับตัวขึ้นได้ในกรอบจำกัด ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,510 - 1,530 จุด
กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยบวก
- รฟม. เตรียมประกาศผู้ผ่านเทคนิคสายสีส้มวันที่ 9 ธ.ค. หุ้นรับเหมาที่เข้าร่วมประมูลมี CK STEC UNIQ ITD CNT
- กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม อานิสงส์ครม.อนุมัติลดหย่อนภาษีได้อีก 15,000 บ.ในการท่องเที่ยวเดือน ธ.ค.
- กลุ่มส่งออก (อาหาร อิเล็กทรอนิกส์) อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุด 35.59 Bath/USD.
- หุ้นเข้าคำนวณ FTSE SET รอบ ธ.ค. Large cap : BJC และ Mid cap : BAFS BCPG SCCC TFG
หุ้นแนะนำ
- SCB ราคาปิด 148 “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 172 บาท
- สินเชื่อเติบโตที่สุดในกลุ่ม 10M59 สินเชื่อสุทธิเติบโต 4.2% แต่ NPL มีโอกาสเพิ่มขึ้น
- คาดกำไรสุทธิปี 59 ราว 4.6 หมื่นลบ. -3% คาดกำไรปี 60 ราว 4.94 หมื่นลบ. +7%
- มีอัพไซต์ใน 4Q59 – 1Q60 ในการกลับสำรองหนี้สูญจำนวน 1.1 หมื่นลบ.ลูกหนี้กลุ่ม SSI
หุ้นมีข่าว
- BEM (ราคาปิด 7.45 บาท แนะนำ ถือ ราคาเหมาะสม 7.40 บาท)
- - รถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง BSR เป็นผู้ชนะซึ่งส่งผลบวกต่อ BTS STEC และ RATCH ที่เป็น JV ร่วมกัน
- - ทาง BEM ไม่ชนะการประมูลเนื่องจากใช้สมมติฐานผู้โดยสารต่ำกว่าที่ รฟม. คาดการณ์ และมองว่าการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีอื่นๆ ที่เตรียมเปิดการประมูลในอนาคตมีความน่าสนใจมากกว่า
- - ประเด็นบวก รฟม. มั่นใจเจรจาเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายกับ BEM จบใน 16 ธ.ค.นี้ พร้อมเสนอครม.เห็นชอบในก.พ. 60
- - ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 59-60 ที่ราว 3,269 และ 4,056 ล้านบาทเติบโต 24% และ 24% ตามลำดับ เนื่องจากการเปิดใช้ทางพิเศษศรีรัชฯ และรถไฟฟ้าสายสีม่วงในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการ
- ประเด็นบวก PTTEP ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ไฟเขียวผู้ได้รับสัมปทานนำเงินหลักประกันรื้อถอนแท่นฯลดหย่อนภาษีได้
- ประเด็นบวก HMPRO (ราคาปิด 10.10 ซื้อ ราคาเหมาะสม 12.60 บาท) เปิด สาขาใหม่ “โฮมโปร พระราม 9” เป็นสาขาลำดับที่ 80 บนพื้นที่กว่า 26,000 ตารางเมตร ตั้งเป้าโกยยอดขาย 65 ล้านบาทต่อเดือน
- ความเห็น : เป็นการเปิดสาขาใหม่ตามแผน โดยยังเหลือแผนเปิดสาขาใหม่โฮมโปร-ถ.ศรีนครินทร์ และเมกาโฮม-จ.นครพนม การเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นและการจัดงานโฮมโปรเอ๊กซ์โปหนุนกำไร 4Q59 ซึ่งคาดจะสูงสุดรายไตรมาสจากที่เป็นช่วงไฮซีซั่น
- TPCH คาดรายได้ปี 60 โตต่อเนื่องตามการรับรู้ COD โรงไฟฟ้า มั่นใจได้โรงไฟฟ้าขยะชุมชนเข้าพอร์ตหลังจะยื่นประมูลปีหน้า ((อินโฟเควสท์)
- GL เดินหน้าดีลซื้อกิจการ CCF ในประเทศศรีลังกา และ BGMM ในประเทศเมียนมา หลังที่ประชุมผถห.อนุมัติแผนลงทุนพร้อมรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก CCF ใน 4Q59 จำนวน 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ทันหุ้น)
- SR เผยบอร์ดอนุมัติเพิ่มเติมวัตถุประสงค์บริษัท เปิดทางลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทน-น้ำมัน-โรงงานคัดแยกขยะ (อินโฟเควสท์)
- AMA เคาะราคา IPO หุ้นละ 9.99 บาท เปิดจอง 8-9, 13-14 ธ.ค. คาดเทรด mai 22 ธ.ค.นี้
- หุ้นที่เข้าร่วมงาน Opportunity Day 8 ธ.ค. ได้แก่ EPG, DRT, SCN, SAT, TRC, TKT
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : +297.84 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,549.62 จุด พุ่งขึ้น 297.84 จุด หรือ +1.55% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,393.76 จุด เพิ่มขึ้น 60.76 จุด หรือ +1.14% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,241.35 จุด เพิ่มขึ้น 29.12 จุด หรือ +1.32%โดยดาวโจนส์ และ S&P500 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะขยายเวลาการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมวันนี้ เพื่อสกัดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการลงประชามติในอิตาลี
ตลาดน้ำมัน NYMEX : -1.16 USD/Barrel
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 1.16 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 49.77 ดอลลาร์/บาร์เรล สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งเพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะพลังงานล้นตลาด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตลาดได้รับแรงกดดันอยู่แล้วจากรายงานที่ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันของรัสเซียและกลุ่มโอเปกปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพ.ย.
ข่าวเด่น