+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสดีดตัวราว 2 เปอร์เซ็นต์ หลังตลาดคาดการณ์ว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบนอกกลุ่มโอเปกจะตกลงยินยอมลดกำลัง การผลิตลงในการประชุมหารือ ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันเสาร์ที่ 10 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ โดยรัสเซียซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่นอกกลุ่มโอเปกได้ส่ง สัญญาณถึงความพร้อมที่จะลดกำลังการผลิตลงราว 3 แสนบาร์เรลต่อวัน ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560
+ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของอาเซอร์ไบจัน เปิดเผยว่า อาเซอร์ไบจันจะเข้าหารือเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตในการประชุมที่กรุง เวียนนา ในวันที่ 10 ธ.ค. ที่จะถึงนี้เช่นกัน โดยจะพิจารณาปรับกำลังการผลิตของประเทศให้เหมาะสมกับกำลังการผลิตที่ผู้ผลิต น้ำมันดิบนอกกลุ่มโอเปกและรัสเซียจะปรับลด
+/- จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐฯ ประจำวันที่ 2 ธ.ค. อยู่ที่ 258,000 ตำแหน่ง ลดลงจากการประกาศครั้งก่อนหน้าที่ระดับ 268,000 ตำแหน่ง เป็นสัญญาณของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมเฟดที่จะถึงในวันที่ 13-14 ธ.ค. นี้ได้
- อย่างไรก็ดี นาย Tim Evans ผู้เชี่ยวชาญด้านตราสารอนุพันธ์พลังงานของ Citigroup ให้ความเห็นว่า ราคาน้ำมันที่ระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อาจเป็นเหตุให้กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบนอกกลุ่มโอเปกไม่สามารถให้ความร่วมมือ ในการลดกำลังการผลิตลงได้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับดี แม้ว่าอุปทานจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและราคาน้ำมันเบนซิน RBOB ทางฝั่งสหรัฐฯ จะปรับตัวลดลงก็ตาม
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ในประเทศอินโดนีเซีย อย่างไรก็ดี อุปทานในภูมิภาคยังมีระดับสูงอยู่จากการที่ยอดการส่งออกน้ำมันดีเซลของ ประเทศญี่ปุ่นประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 3 ธ.ค. 59 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 181 จากสัปดาห์ก่อน
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 48-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวยในกรอบ 51-56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่่น่าจับตามอง
จับตาดูการประชุม ระหว่างผู้ผลิตกลุ่มโอเปก และนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 10 ธ.ค. ณ กรุงเวียนนา เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาอุปทานน้ำมันดิบโลกล้นตลาด โดยกลุ่มโอเปกหวังว่าผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกจะสามารถลดกำลังการผลิตลงราว 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้คาดว่ารัสเซียจะให้ความร่วมมือลดกำลังการผลิตราว 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ตลาดกังวลว่าการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก ตามข้อตกลงอาจเป็นไปได้ยากขึ้น หลังสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกในเดือน พ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 0.37 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 34.19 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยประเทศที่ปรับเพิ่มปริมาณการผลิตมากสุดได้แก่ แองโกลา ลิเบีย ไนจีเรีย และอิรัก ตามลำดับ
ข่าวเด่น