ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องในตลาดเอเชียและตลาด COMEX หลังจากที่เฟดตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0.50-0.75% พร้อมคาดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งในปีหน้าจึงกดดันให้มีแรงเทขายในตลาดทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SPDR ที่ทำการเทขายเมื่อวานนี้ 7.11 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 842.33 ตัน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นและเช้านี้อยู่ที่ 103.66 ด้านค่าเงินบาทปรับแข็งค่าเช่นกัน โดยลงมาที่ระดับ 35.52 จึงกดดันให้ทองคำไทยวานนี้เปิดปรับตัวลดลง 200 บาท/บาททองคำ และมีการกดดันต่อเนื่องมาปิดที่ระดับ 19,350 บาท/บาททองคำ ด้านข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯในส่วนของเงินเฟ้อออกมาขยายตัวตามคาด ขณะที่ข้อมูลผลสำรวจภาคการผลิตประจำเขตฟิลาเดเฟียออกและดัชนีภาวะธุรกิจโดย รวมของสหรัฐฯออกมาดีขึ้น ประกอบกับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการที่มีจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการลดลง สำหรับคืนนี้ต้องติดตามข้อมูลภาคที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ ได้แก่ Building Permits ที่คาดว่าจะมียอดรออนุมัติก่อสร้างลดงเล็กน้อย ขณะที่ Housing Starts ยอดการเริ่มสร้างบ้านคาดจะปรับตัวลง
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคา ทองคำยังคงทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 10 เดือนบริเวณ 1,124 เหรียญโดยประมาณ และยังคงมีแรงเทขายอย่างต่อเนื่องเข้ามาในตลาด ทองคำจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,115 เหรียญในระยะสั้น และมีแนวต้าน 1,150 เหรียญ ขณะที่ราคาทองคำไทยจะมีแนวรับที่ระดับ 19,100 บาท/บาททองคำ และแนวต้านที่ระดับ 19,450 บาท/บาททองคำ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำกลยุทธ์ตามทิศทางขาลง และปรับพอร์ตให้สมดุลกับสภาวะแนวโน้มขาลง
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ปิดสถานะลดความเสี่ยง เนื่องจากภาพหลักตลาดเป็นขาลง
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
หาจังหวะเปิดสถานะเพิ่มบริเวณแนวต้าน และปิดทำกำไรบริเวณแนวรับ
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
กลยุทธ์ทิศทางขาลง เน้นปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับภาพหลักที่เป็นขาลง และไม่ใช้ Leverage ในการลงทุนที่สูงจนเกินไปนัก
Gold Futures Z16 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,130 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,330 บาท
Gold Futures G17 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,400 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัท ไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้ วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ข่าวเด่น