+/- ราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย หลังการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากตลาดยังคงจับตาว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจาก shale oil ในสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มขึ้นและสามารถชดเชยการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกและประเทศอื่นๆในปีหน้าได้หรือไม่
- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น หลังจำนวนแท่นขุดเจาะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่เจ็ดติดต่อกัน มาอยู่ระดับ 510 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ ประกอบกับสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ คาดว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค. มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 8.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ก.ค.
+ InterContinental Exchange (ICE) รายงาน สถานะการถือครองน้ำมันดิบเบรนท์สุทธิ (Net Long Position) สิ้นสุด ณ วันที่ 13 ธ.ค เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 25,276 สัญญา มาอยู่ที่ 477,861 สัญญา หลังผู้ผลิตในและนอกกลุ่มโอเปกสามารถบรรลุข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตลง เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา
- นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในลิเบีย หลังบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย ( NOC) คาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในลิเบียจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 900,000 บาร์เรลต่อวันในเร็วๆนี้ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการจากศรีลังกาที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับโรงกลั่นแห่งหนึ่งในจีนยกเลิกการส่งออกน้ำมันเบนซิน หลังปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในช่วงที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการจากอินเดียและอินโดนีเซียปรับเพิ่มขึ้น โดยยอดการขายน้ำมันดีเซลในอินเดีย เดือน พ.ย. ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 49-54 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 52-57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกว่าจะสามารถปรับลดกำลังการผลิตลงตามที่ตกลงไว้ว่าหรือไม่ ล่าสุด บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และคูเวต เริ่มดำเนินการแจ้งกลุ่มลูกค้าว่าจะมีการปรับลดปริมาณน้ำมันดิบที่ส่งออกลงโดยเฉลี่ยร้อยละ 5 และรัสเซียได้ทำการตกลงเบื้องต้นที่จะปรับลดกำลังการผลิตตามที่ได้มีการตกลงไว้แล้ว
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลง หลังโรงกลั่นเพิ่มกำลังการกลั่นขึ้นต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มมากขึ้น โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 ธ.ค. 59 ปรับลดลงต่อเนื่องกว่า 4 สัปดาห์ติดต่อกัน
จับตาสถานการณ์ในลิเบีย หลังกลุ่มผู้ประท้วงยุติการประท้วงและเปิดดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันดิบ ส่งผลให้บริษัทน้ำมันมีแนวโน้มที่จะสามารถกลับมาดำเนินการผลิตแหล่งน้ำมันดิบ Sharara และ El Feel ได้เร็วนี้และส่งผลให้ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นโดยรวมทั้งสิ้น 365,000 บาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันที่ 600,000 บาร์เรลต่อวัน
ข่าวเด่น