+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายด้านเศรษฐกิจ ซึ่งรวมไปถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและข้อตกลงการค้าต่างๆที่จะช่วยบ่ง ชี้ทิศทางของตลาดเงินในปี 2560 ทำให้นักลงทุนแคลงใจกับนโยบายของสหรัฐฯ ว่าจะเดินไปในทิศทางใด
+ ขณะเดียวกัน ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ทำการแจ้งต่อลูกค้าบางรายในเอเชียตะวันออกฉียงใต้และอินเดียถึงการปรับลด การส่งมอบน้ำมันดิบในเดือน ก.พ. ลงถึงร้อยละ 30 และ 20 ตามลำดับ อย่างไรก็ตามภาพรวมในเอเชียจะปรับลดลงราวร้อยละ 5 ถึงร้อยละ 10 เพื่อตอบสนองต่อข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตในกลุ่มโอเปกแล้ว
– สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยปริมาณน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 ม.ค. 60 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่ม ขึ้นเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล เนื่องจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 8.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
– นอกจากนี้ในรายงานประจำเดือนของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ปรับเพิ่มการคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในปี 60 จะเพิ่มขึ้น 110,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 9.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันสหรัฐฯ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยคาดว่าในปี 60 จะเพิ่มขึ้นราว 260,000 บาร์เรลต่อวันจากปีก่อนหน้า
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบนซินยังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกที่มากขึ้นจากประเทศไต้หวัน โดยในเดือนธันวาคมที่ผ่านมามีการส่งออกเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 30.66 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจากได้รับแรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันดีเซลส่วนเกินไปยังภูมิภาคยุโรปลด ลง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดีเซลยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน
ข่าวเด่น