+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นจากข่าวจากผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายสำคัญของโลก อย่างซาอุดิอาระเบียและรัสเซียพร้อมที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง ตามข้อตกลงของกลุ่มโอเปกที่ได้มีการหารือไว้ตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย. 2559 ที่ผ่านมา โดยซาอุดิอาระเบีย เปิดเผยว่า กำลังการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดลงเหลือต่ำกว่าระดับ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เดือน ก.พ. 2558 นอกจากนี้ซาอุดิอาระเบียได้เตรียมที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงไปอีกใน เดือน ก.พ. 2560 ซึ่งหมายความว่า ซาอุดิอาระเบียจะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงมากกว่า 486,000 บาร์เรลต่อวันซึ่งเป็นปริมาณการผลิตที่ได้ตกลงไว้ในข้อตกลงของกลุ่มโอเปก ในขณะที่รัสเซียได้ออกมายืนยันว่าได้เริ่มการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบตามแผน ไปแล้ว
+ นอกจากซาอุดิอาระเบียและรัสเซียแล้ว คูเวตและอิรักก็เป็นอีกสองประเทศในกลุ่มโอเปกที่ได้ออกมาประกาศว่าได้ลด กำลังการผลิตน้ำมันดิบลงตามข้อตกลง โดยคูเวตได้เปิดเผยว่า ได้ลดกำลังการผลิตลงมากกว่าที่ได้ตกลงไว้ ในขณะที่อิรักได้เปิดเผยว่า ภายในสิ้นเดือน ม.ค. 2560 นี้ อิรักจะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงประมาณ 210,000 บาร์เรลต่อวัน
+ บริษัทปิโตรเลียมแห่งชาติจีน (CNPC) ได้คาดการณ์ว่า ในปี 2560 นี้ ประเทศจีนจะมีการนำเข้าน้ำมันดิบสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 ปรับตัวขึ้นไปสู่ระดับ 396 ล้านตัน ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันดิบในประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 594 ล้านตันหรือเทียบเท่า 11.88 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+ นายคาหลิด อัล-ฟารีห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบีย ได้คาดการณ์ว่า อุปทานน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มที่จะตึงตัวภายใน 2-3 ปีข้างหน้านี้ จากการเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันที่จะเติบโตขึ้นประมาณ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ และการปรับลดกำลังการผลิตจากทั้งกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่ม
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากราคา NYMEX RBOB ในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับอุปทานที่ลดลงในภูมิภาคจากการปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินของโรงกลั่นใน ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หลังเกิดเหตุไฟไหม้ในวันพุธที่ผ่านมา
ราคา น้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่ยังแข็งแกร่งในภูมิภาค ประกอบกับอุปทานที่ลดลงในภูมิภาคจากการปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินของโรงกลั่นใน ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หลังเกิดเหตุไฟไหม้ในวันพุธที่ผ่านมา
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 52-57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ ผลิตกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกมีความชัดเจนมากขึ้น หลังซาอุดิอาระเบียเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้นว่าลูกค้ากลุ่มใดที่ โดนปรับลดปริมาณการส่งออกลง สำหรับในเอเชียจะถูกปรับลดโดยเฉลี่ยลงร้อยละ 5-10 นอกจากนี้ คูเวตและอิรักออกมาเปิดเผยว่าปริมาณการผลิตล่าสุดได้ปรับลดลงแล้ว โดยคูเวตได้ปรับลดปริมาณการผลิตลงมาอยู่ที่ระดับ 2.707 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 2.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก่อน ขณะที่อิรักปรับลดลงไปแล้วกว่า 170,000 บาร์เรลต่อวัน และภายในสัปดาห์นี้เตรียมที่จะปรับลดกำลังการผลิตอีก 40,000 บาร์เรลต่อวัน เพื่อให้ไปเป็นไปตามข้อตกลงที่จะปรับลดปริมาณการผลิตลง 210,000 บาร์เรลต่อวัน
จับตาสถานการณ์ในลิเบียหลังรัฐบาลเตรียมประกาศยุติการ ส่งมอบน้ำมันดิบจากท่าเรือทางด้านตะวันตกจากเหตุสุดวิสัย หลังพบมีการลักลอบน้ำมันดิบที่ท่าเรือ ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นช้าลง โดยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบล่าสุดปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 708,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 600,000 บาร์เรลต่อวัน
ปริมาณ น้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ หลังราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นใกล้ระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มการขุดเจาะต่อเนื่องกว่า 10 สัปดาห์มาอยู่ที่ระดับ 529 แท่น
ข่าวเด่น