ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำมีการแกว่งตัวปรับลดลงเมื่อวานนี้ หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจโดยทั่วไปของสหรัฐอเมริกาออกมาดีขึ้น ประกอบด้วย Housing Starts, Philly Fed Manufacturing Index และ Jobless Claims  จึง ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น และมีแรงเทขายทองคำหลุด 1,200 เหรียญลงมา ทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,195 เหรียญโดยประมาณ และปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,201.5 เหรียญ ขณะที่กองทุน SPDR ถือ ครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 807.96 ตัน สำหรับถ้อยแถลงของประธานเฟดเช้านี้ ยังคงออกมาในเชิงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และวิเคราะห์ว่าเงินเฟ้อนั้นจะใช้เวลาอีก 1-2 ปีในการบรรลุเป้าหมาย จึงทำให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนลงเล็กน้อย ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย และทำให้ราคาทองคำเช้านี้เปิดตลาดฮ่องกง 1,203 เหรียญ และค่อยๆดีดตัวขึ้นมาแถวระดับ 1,207 เหรียญโดยประมาณ ขณะที่ข้อมูลจีดีพีจีนเช้านี้ออกมาดีขึ้นกว่าคาดที่ระดับ 6.8% สำหรับภาพรวมของค่าเงินดอลลาร์เช้านี้กลับมาอ่อนค่าลงเล็กน้อย  ด้านอีซีบียังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำกว่า 0% รวมทั้งคงนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป และภาพรวมผลการประชุมของอีซีบีไม่ได้มีผลใดๆต่อค่าเงินดอลลาร์และตลาดทองคำมากนัก

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 

ระยะ สั้นดูเหมือนว่าทองคำจะมีแรงเทขายทำกำไรลงมาทดสอบแนวรับแรก 1,195 เหรียญ ก่อนที่จะดีดกลับได้ในเช้านี้ และภาพรวมระยะสั้นทองคำเป็นขาขึ้น และคาดว่าทองคำจะแกว่งตัวในกรอบดังกล่าวต่อไป โดยที่ตลาดเน้นไปยังเรื่องของพิธีสาบานตนเพื่อเข้ารับตำแหน่งของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าจะมีการแถลงอะไรหรือไม่ และคาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,195 – 1,215 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยจะมีแนวรับ 20,100 บาท/บาททองคำ ขณะที่แนวต้านจะอยู่ที่ระดับ  20,500 บาท/บาททองคำ ขณะที่ค่าเงินบาทคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.28 – 35.38 บาท/ดอลลาร์

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ 

เก็งกำไรในกรอบ 1,195 – 1,215 เหรียญ

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

เก็งกำไรในกรอบ หาจังหวะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และปิดทำกำไรบริเวณแนวต้าน

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดสถานะลดความเสี่ยงเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
ยังคงแนะนำให้ปรับพอร์ตการลงทุนให้สมดุลเพื่อรับสภาวะต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แนะนำให้ปิดสถานะ Short Position

Gold Futures G17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,400 บาท