สถานการณ์ น้ำท่วมในหลายพื้นที่ภาคใต้ แม้ว่าหลายพื้นที่จะเริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ยังคงมีบางพื้นที่มีน้ำท่วมขังอีกรอบ หลังมีฝนตกหนักลงมาอีก กรมชลประทาน ยังคงเดินหน้าเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์สภาวะอากาศระยะนี้ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยและ ทะเลจีนใต้ ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 23-25 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในภาคใต้ตอนล่างบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

ทั้ง นี้ พล.อ.ฉัตรชัย  สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยพี่น้องในพื้นที่ภาคใต้ที่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมเป็นอย่าง มาก ได้มอบหมายให้กรมชลประทานนำเครื่องจักร เครื่องมือลงไปติดตั้งเพิ่มเติมจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว เพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังให้ออกสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด

          สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง ดังนี้ จ.สุราษฎร์ธานี  ระดับน้ำในแม่น้ำตาปีบริเวณอ.เคียนชา และอ.พุนพิน มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จ.พัทลุง ยังคงมีน้ำท่วมที่ลุ่มต่ำบริเวณปากแม่น้ำต่างๆที่ไหลไปลงทะเลสาบสงขลา

          จ.นครศรีธรรมราช ยังคงมีน้ำท่วมขังที่ลุ่มต่ำของลุ่มน้ำปากพนังตอนล่าง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำคงเหลือในพื้นที่ประมาณ 548 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณน้ำท่วมทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีฝนตกหนักลงมาเพิ่มในช่วงวันที่ 18 – 20 ม.ค. 60 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีแนวโน้มลดลงแล้ว ส่วนในพื้นที่เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยังคงมีน้ำท่วมขังบริเวณที่ลุ่มต่ำริมคลองนครน้อย สูงประมาณ  5 - 10 เซนติเมตร    หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายในเย็นวันนี้(23 ม.ค. 60) กรมชลประทาน ยังคงเดินเครื่องสูบน้ำ จำนวน 17 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 4 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่ จ.สงขลา ยังคงมีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำริมทะเลสาบสงขลา บริเวณอ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ อ.สทิงพระ และอ.สิงหนคร แนวโน้มลดลง

          จ.ปัตตานีและจ.ยะลา ยัง คงมีน้ำท่วมขังในเขตอำเภอเมืองปัตตานี อำเภอกะพ้อ อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอแม่ลาน อำเภอหนองจิก อำเภอยะรัง อำเภอมายอ และอำเภอสายบุรี รวมไปถึงพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่งของอำเภอเมืองยะลา อำเภอรามัน และอำเภอยะหาด้วย โดยในลุ่มน้ำปัตตานี ระดับน้ำบริเวณบ้านบริดอ อ.เมือง จ.ปัตตานี สูงกว่าตลิ่ง 0.87 เมตร ส่วนที่สะพานเดชานุชิต อ.เมือง จ.ปัตตานี ระดับน้ำต่ำกว่าระดับตลิ่ง 0.06 เมตร สำหรับบริเวณอ.เมืองยะลา ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 0.51 เมตร แนวโน้มเพิ่มขึ้น ทางด้านลุ่มน้ำสายบุรี ระดับน้ำที่อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.34 เมตร และที่อ.รามัน จ.ยะลา ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 0.31 เมตร หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่สภาวะปกติ 5-6 วัน

          สำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำมีน้ำท่วมขัง นั้น กรมชลประทาน ได้ส่งเครื่องสูบน้ำติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้(23 ม.ค. 60) มีเครื่องสูบน้ำที่ออกปฏิบัติงานแล้ว 170 เครื่อง และมีเครื่องผลักดันน้ำ ที่ออกปฏิบัติการแล้ว 112 ลำ ช่วยเสริมศักยภาพการระบายน้ำสายต่างๆ ให้สามารถระบายลงสู่แม่น้ำสายหลักและลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้น พร้อมกันนี้ ได้ย้ำให้ทุกโครงการชลประทานในภาคใต้ จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง  โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีอ่างเก็บน้ำอยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน จะจัดทำรายงานสถานการณ์น้ำให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำได้อย่างทันท่วงทีต่อ ไป