คำแนะนำ
หากราคายืนเหนือ 1,202 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เปิดสถานะซื้อ(ตัดขาดทุนหากหลุด 1,191 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แต่หากราคาทองคำดีดตัวขึ้นยังไม่สามารรถยืนเหนือ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจพิจารณาเปิดสถานะขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,202 1,191 1,180
แนวต้าน 1,220 1,233 1,240
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 8.64 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังการเปิดเผย ตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐที่ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค.ของสหรัฐปรับ ตัวขึ้นสู่ระดับ 55.1จากระดับของเดือนธ.ค.ที่ 54.3 นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ โดยวานนี้ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก112.86 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่านโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์จะ มีความชัดเจนมากขึ้น อีกทั้งคาดว่านโยบายปรับลดภาษีและนโยบายปรับลดกฎระเบียบในภาคธนาคารจะช่วย หนุนผลกำไรในภาคเอกชน ปัจจัยดังกล่าวกดดันให้เกิดแรงขายทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง 2.98 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาบ้าน (HPI) เดือนพ.ย.และตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำไม่สามารถ break out กรอบราคาด้านบนหรือไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเกิดแรงขายตามมาอาจส่งผล ทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,202 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากทะลุแนวต้านแรกไปได้ แนวต้านถัดไปอยู่ในโซน 1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
รอเปิดสถานะซื้อในบริเวณ 1,202 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากหลุด 1,191 ดอลลาร์ต่อออนซ์) อย่างไรก็ตามการลงทุนควรเป็นในลักษณะเก็งกำไรระยะสั้น ไม่ควรถือสถานะข้ามคืน พิจารณาความเสี่ยงจากแรงขายที่สลับออกมาเพิ่มขึ้นเพื่อประกอบการวางแผนลงทุน
ข่าวเด่น