สภาวะตลาดวันที่ 25 มกราคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,200.64-1,209.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,150 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,300 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG17 อยู่ที่ 20,190 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 160 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,350 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.06 น.ของวันที่ 25/01/2560)
แนวโน้มวันที่ 26 มกราคม 2560
ศาลสูงสุดของอังกฤษ ตัดสินว่า รัฐบาลอังกฤษต้องขออนุมัติจากรัฐสภาก่อนที่จะเริ่มการเจรจาเรื่องการถอนตัว ออกจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit จะช่วยขจัดความไม่แน่ใจเกี่ยวกับความผันผวนของตลาดเงินตลาดทุนซึ่งส่งผลให้ ทองคำขาดปัจจัยหนุน ขณะที่ทองคำได้รับแรงกดดัน เมื่อนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มสูงขึ้นจากแนวโน้มที่ดี ขึ้น ด้านผลกำไรของภาคเอกชนที่อาจจะสดใสมากขึ้น เห็นได้จากดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ พบปะกับประธานเจ้าหน้าที่บริหารของผู้ผลิตรถยนต์กลุ่มบิ๊กทรีของสหรัฐเพื่อ ผลักดันให้มีการผลิตรถยนต์ในสหรัฐมากขึ้น รวมทั้ง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อเดินหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่ ยุติไป ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 3 เดือน ตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ขณะที่นักลงทุนขานรับความกระตือรือร้นของประธานาธิบดีสหรัฐที่จะทำตามคำ สัญญาที่ให้ไว้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำของจีนยังได้รับผลกระทบจากความวิตก หลังจากธนาคารกลางจีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อระยะกลาง (MLF) ซึ่งธนาคารกลางจีนได้ปรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี และ 6 เดือนขึ้น 0.10% สู่ระดับ 3.1% และ 2.95% ตามลำดับ ประกอบกับสมาคมทองของจีนเปิดเผย การผลิตทองคำเพิ่มขึ้น 0.76% สู่ 453.49 ตันในปี 2559 ขณะที่ปริมาณการใช้ทองคำลดลง 6.74% สู่ 975.38 ตันในปี 2559
ทางวายแอลจีจึงประเมินว่า โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,211-1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จึงเกิดแรงขายออกมา อย่างไรก็ตามแนะนำให้รอจังหวะการย่อตัวของราคาเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรในระยะ สั้นพร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตในช่วงนี้
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,191 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ และหากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,211-1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,191 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับ ถัดไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,191 (19,850บาท) 1,180 (19,700บาท) 1,173 (19,550บาท)
แนวต้าน 1,211 (20,200บาท) 1,220 (20,350บาท) 1,233 (20,550บาท)
GOLD FUTURES (GFG17)
แนวรับ 1,191 (20,000บาท) 1,180 (19,800บาท) 1,173 (19,700บาท)
แนวต้าน 1,211 (20,350บาท) 1,220 (20,500บาท) 1,233 (20,700บาท)
ข่าวเด่น