สภาวะตลาดวันที่ 30 มกราคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,188.38-1,195.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,800 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG17 อยู่ที่ 19,970 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 80 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,890 บาท
  (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.20 น.ของวันที่ 30/01/2560)

แนวโน้มวันที่ 31 มกราคม 2560
  ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะประชุมกำหนดโยบายการเงินในวันอังคารนี้ โดยผลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าบีโอเจจะคงอัตราการเพิ่มขึ้นของการถือครอง พันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นไว้ที่ 80 ล้านล้านเยนต่อปี คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นที่ -0.1% และ เป้าหมายผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ 0% ตามเดิม อย่างไรก็ตามในระยะสั้นทองคำได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลว่า บีโอเจซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น หรือ JGB มูลค่า 8.25 ล้านล้านเยน ในปริมาณที่น้อยที่สุดในรอบกว่า 2 ปีในเดือนมกราคม ซึ่งทำให้เกิดความสงสัยว่า บีโอเจอาจจะกำลังลดโครงการซื้อพันธบัตรจำนวนมหาศาลลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อที่บีโอเจจะพยายามลดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นให้ แคบลง ซึ่งจะกดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่าลงและส่งผลบวกต่อราคาทองคำ ทั้งนี้ การขยับขึ้นของราคาทองคำค่อนข้างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนจะรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคาร และ พุธ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐภายใต้การบริหารของ ประธานาธิบดีทรัมป์ แม้ว่านักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายเฟดจะคงไว้ที่ 0.50-0.75% ตามเดิม แต่เฟดอาจจะส่งสัญญาณยืนยันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2560 ด้วยเหตุผลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งขึ้น รวมทั้งทิศทางอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ประเด็นดังกล่าวยังคงสร้างแรงขายสลับออกมาเมื่อราคาทองคำดีดตัวขึ้น ทั้งนี้ ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,202-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ จะทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยราคายังมีโอกาสทดสอบแนวต้าน ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะสั้นเข้าซื้อ เก็งกำไร
  กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อ ราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยหากมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ แต่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุน หากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,202 หรือ 1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ

ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ            1,180 (19,700บาท)        1,171 (19,550บาท)             1,163 (19,400บาท)
แนวต้าน          1,202 (20,050บาท)        1,211 (20,200บาท)             1,220 (20,350บาท)
  
GOLD FUTURES (GFG17)
แนวรับ            1,180 (19,800บาท)        1,171 (19,650บาท)             1,163 (19,550บาท)
แนวต้าน          1,202 (20,150บาท)        1,211 (20,350บาท)             1,220 (20,500บาท)