- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังจำนวนหลุมขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลทำให้นักลงทุนต่างกลับมากังวลในเรื่องสภาวะอุปทานล้นตลาดอีกครั้ง หลังนักวิเคราะห์ได้ออกมาแสดงความกังวลว่าการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิต ทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกตามข้อตกลงอาจจะไม่สามารถชดเชยปริมาณการผลิตน้ำมัน ดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นได้ ทั้งนี้ Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 27 ม.ค. 60 ปรับเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 15 แท่น มาอยู่ที่ 566 แท่น แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 58
  - นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังมองว่า ราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันได้กระตุ้นให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในชั้นหินดินดาน (Shale Oil) สหรัฐฯ กลับมาผลิตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะมีปัจจัยสนับสนุนที่จะทำให้อยู่เหนือระดับราคา 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล แต่ราคาน้ำมันดิบในปี 2561 จะไม่ปรับตัวขึ้นไปสูงกว่าระดับ 60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
  -  ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลดลง 176.47 จุด หรือประมาณร้อยละ 0.88 ลงมาปิดที่ระดับ 19,917.31 จุด หลังได้รับแรงกดดันจาก ความกังวลต่อนโยบายการสั่งระงับผู้อพยพเข้าประเทศของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ที่มีคำสั่งห้ามไม่ให้พลเมืองจาก 7 ประเทศได้แก่ ซีเรีย เยเมน ซูดาน โซมาเลีย อิรัก อิหร่าน และลิเบียเข้าสหรัฐฯ เป็นเวลา 90 วัน และห้ามผู้ลี้ภัยจากทุกประเทศเข้าสหรัฐฯ เป็นเวลา 120 วัน
  + Petro-Logistic ได้เปิดเผยว่า ผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปกได้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบในเดือนม.ค. 59 ลง 900,000 บาร์เรลต่อวันแล้ว จากที่ได้ตกลงไว้ว่าจะปรับลด 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในการประชุมของผู้แทนกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่มในช่วง เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

  ราคาน้ำมันเบนซิน ตลาดสิงคโปร์ปิดเนื่องในวันตรุษจีน
  ราคาน้ำมันดีเซล ตลาดสิงคโปร์ปิดเนื่องในวันตรุษจีน

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
   ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
   ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 52-57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง
  จับตาการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งใน และนอกกลุ่มโอเปกว่าจะสามารถทำตามข้อตกลงได้หรือไม่ โดยล่าสุดรัฐมนตรีซาอุดิอาระเบียคาดการณ์ว่าปัจจุบันผู้ผลิตทั้งในและ นอกกลุ่มโอเปกลดกำลังการผลิตลงแล้ว 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือประมาณร้อยละ 80 ของทั้งหมด และคาดว่าจะสามารถทำได้ตามข้อตกลงที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในสิ้นเดือนนี้ นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบล่าสุดของซาอุดิอาระเบียปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันแล้ว ทั้งนี้การประชุมเพื่อติดตามผลของข้อตกลงจะเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 17 มี.ค. 60
  ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์และส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันลดลง หลังได้รับแรงกดดันจากความ
ไม่ แน่นอนของนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯหรือ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาแต่อย่างใด นโยบายโดยส่วนใหญ่ที่มีการดำเนินการคือนโยบายกีดกันการค้าและการอพยพของแรง งาน
  ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ยังคงทรงตัวในระดับสูง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ม.ค. 60 ปรับเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล มาสู่ระดับ 488.3 ล้านบาร์เรล จากอัตราการกลั่นที่ปรับลดลงตามอุปสงค์ที่อ่อนตัวลง และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้น