คำแนะนำ
หากราคาไม่หลุด 1,194 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รอเสี่ยงเปิดสถานะซื้อในบริเวณดังกล่าว(ตัดขาดทุนหากหลุด 1,187 ดอลลาร์ต่อออนซ์) เน้นการลงทุนระยะสั้นและไม่ควรถือสถานะจำนวนมาก
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,194 1,187 1,180
แนวต้าน 1,219 1,228 1,237
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัว โดยในระหว่างการซื้อขายราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,211.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก่อนที่จะถูกแรงขายกดดันให้ราคาทองคำลดช่วงบวกลงในที่สุด โดยนักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการซื้อ-ขายทองคำก่อนการประชุมธนาคารกลาง สหรัฐหรือเฟดในวันที่ 14-15 มี.ค. ซึ่งเป็นที่คาดการณ์กันว่าเฟดจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม ครั้งนี้ ทั้งนี้ FedWatch Tool จาก CME Group บ่งชี้ว่า เทรดเดอร์คาดว่ามีโอกาสสูงถึง 95.2% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค.นี้ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 91% ก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ อย่างไรก็ดีการอ่อนตัวลงของราคาทองคำในช่วงนี้ยังอยู่ในเกณฑ์จำกัดเช่นกัน เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยก่อนที่ เนเธอร์แลนด์จะจัดการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ ด้านกองทุน SPDR กลับมาถือครองทองคำเพิ่มอีกครั้งวานนี้ปริมาณ 6.81 ตัน ขณะที่วันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ.ของสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือ โซน 1,212-1,219 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่งผลให้แรงซื้อยังคงถูกจำกัดและราคาอาจแกว่งตัวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐาน ราคา สำหรับวันนี้หากราคาผ่านแนวต้านแรกได้แนวต้านถัดไปจะอยู่ในบริเวณ 1,228 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับนั้นยังคงประเมินในโซน 1,194 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,194 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,187 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจพิจารณาแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้าน ที่ 1,212-1,219 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น