ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ การลงทุนยังถูกกดดันด้วย GL ที่ลง Floor เป็นวันที่ 2 ขณะที่หุ้นหลักกลับทรงตัวได้ดี ไม่ว่าจะเป็น SCC/ PTT /ADVANC อีกทั้งบรรยากาศรอบเอเชียเริ่มฟื้นตัวเล็กน้อย ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,535.51 จุด ลบ 4.40 จุด ผลกระทบจากหุ้น GL ราว 2 จุด มูลค่าการซื้อขาย 35,931 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาด หุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 11 วันทำการ 239 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 4 อีก 7,637 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 11 เพียง 374 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
GL ส่งคำชี้แจงต่อตลท.คืนวานนี้ ติดตามท่าทีของตลท.ต่อคำชี้แจงดังกล่าว
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปีลดลงเป็นวันแรกในรอบ 11 วันทำการ
กระแสเงินทุนต่างชาติชะลอการลดน้ำหนักในไทย
สภาอังกฤษอนุมัติกฎหมาย Brexit แล้ว
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 32)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ สะท้อนภาพที่ชัดเจนกล่าวคือ หุ้นหลักใน SET50 Index ทรงตัวถึงฟื้นตัว ไม่ว่าจะเป็น SCC/ PTT/ PTTEP/ ADVANC แต่หุ้นขนาดกลางและเล็กกลับปรับฐานลงแรง โดยเฉพาะหุ้นที่ขยับขึ้นร้อนแรงในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจ
เรา เชื่อว่าตัวแปรสำคัญคือ ทิศทางราคาหุ้น GL ในวันนี้ หากทรงตัวได้ หลังจากลงติด Floor มา 2 วันทำการติดต่อกัน เชื่อว่าหุ้นขนาดกลางและเล็กจะทรงตัวได้เช่นกัน ขณะที่แรงเก็งกำไรจะกลับเข้าสู่กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างพลังงาน / ปิโตรเคมี ต่อการประชุมเฟดในคืนวันพรุ่งนี้ หากประธานเฟด และ Dot Plot ส่งสัญญาณคงการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ และทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปแล้ว เชื่อว่าเม็ดเงินจะไหลกลับเข้าเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยง อย่างตลาดหุ้น / น้ำมัน รวมถึงราคาพันธบัตรสหรัฐฯ ฟื้นตัว ภายใต้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะกลับมาอ่อนค่าถึงทรงตัว ซึ่งจะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นในเอเชียเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทย
กลยุทธ์การลงทุน “ถือพอร์ตที่สะสมมาก่อนหน้านี้ และเลือกเข้าสะสมหุ้นรายตัวที่ผลตอบแทนเงินปันผลเด่น หรือแนวโน้มผลการดำเนินงาน 1Q60 เติบโตสูง”
Daily Pick
1. เก็งกำไร PTTEP : ราคาปิด 89.75 บาท ราคาเหมาะสม 101.00 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะมีทิศทางฟื้นตัว หลังทราบผลการประชุมเฟดในวันที่ 15 มี.ค. โดยประเมินว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่ใช่ประเด็น Surprise ใหม่ต่อตลาดแล้ว และเศรษฐกิจสหรัฐฯที่กลับมาขยายตัวจะเป็นปัจจัยผลักดันให้ราคาน้ำมันดิบ NYMEX กลับมายืนเหนือ US$50.00/barrel
b) PTTEP เป็นหุ้นหลักในกลุ่มพลังงาน ที่เชื่อมโยงโดยตรงต่อราคาน้ำมันดิบ จึงเชื่อว่าจะได้ประโยชน์โดยตรงเมื่อราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว ขณะที่ผลประกอบการ 1Q60 คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตทั้ง yoy และ qoq ตามราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนต่อหน่วยคาดว่าจะลดลง yoy จากค่าเสื่อมราคาและการตัดจำหน่ายที่ลดลง
c) ราคาหุ้นปรับตัวลง -6.7% YTD เทียบกับ SET INDEX -0.5% และ SET ENERGY -0.9% ส่งผลให้ Valuation มีความตึงตัวลดลง ซื้อขาย PER2560 ระดับ 13.3 เท่า และ 11.5 เท่าในปี 2561
2. เก็งกำไร IVL : ราคาปิด 34.00 บาท ราคาเหมาะสม 41.00 บาท
a) ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกระยะสั้นรออยู่ เนื่องจากเป็นหุ้นที่ถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี FTSE Large Cap ซึ่งจะมีการปรับน้ำหนักในวันศุกร์ที่ 17 มี.ค.
b) แนวโน้มผลประกอบการ 1Q60 คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติจะเติบโตทั้ง yoy และ qoq จากแรงหนุนของ Spread ที่เพิ่มขึ้นทั้ง PET และ MEG รวมทั้งการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยช่วยหนุนปริมาณขายให้ เติบโตต่อเนื่อง
c) คาดกำไรจากการดำเนินงานปี 2560 จะเติบโต +26% yoy เป็น 9,895 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้ของ BP Amoco และ Cepsa Spain อย่างเต็มปี และมี Upside ทียังไม่รวมไว้ในประมาณการ คือ การลดภาษีนิติบุคคลของสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้ IVL ประหยัดภาษี
จายได้ราวปีละ 900 ล้านบาท
ข่าวเด่น