ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ฟื้นตัวสอดคล้องกับภูมิภาคเอเชีย หลังเฟดคงมุมมองการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้หุ้น Big Cap ฟื้นตัวเด่น นำโดยกลุ่มพลังงาน /ปิโตรเคมี ขณะที่หุ้น GL ยังคงผันผวน ต่อเนื่อง ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,557.05 จุด บวก 16.25 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากถึง 56,118 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติขายสุทธิ ตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 1,325 ล้านบาท แต่ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 มากถึง 18,698 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้อีกครั้ง 1,021 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
BoJ / BoE คงนโยบายการเงินตามคาด
Trump เสนองบประมาณ มุ่งเน้นความปลอดภัยของประเทศ
การปรับดัชนี FTSE ณ ราคาปิดวันนี้
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
ความคืบหน้า Brexit หลังออกกฎหมายอย่างเป็นทางการแล้ว
ติดตามการประชุมครม.อาจพิจารณาและอนุมัติโครงการรถไฟรางคู่ และรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย
การประชุมโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกวันที่ 26 มี.ค.
ติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดวันที่ 23 มี.ค.
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงบวก (วันที่ 3)
วันนี้ติดตามผลการ ประชุมบอร์ดของ GL เพราะจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวราคาหุ้นดังกล่าว และหุ้นขนาดกลางและเล็กในภาพรวม อีกทั้งวันนี้เป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ โอกาสเกิดแรงขายทำกำไรในภาพรวม ทำให้เราประเมินว่า SET INDEX แกว่งแคบลงระหว่าง 1,550-1,565 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 5.5-6.0 หมื่นล้านบาท/วัน
อย่างไรก็ตาม Downside risk ของ SET INDEX จำกัด ด้วยกลุ่มพลังงาน/ปิโตรเคมี เพราะเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบ NYMEX จะฟื้นตัวต่อเนื่องสู่ด่าน US$53-55/barrel หากผลการประชุมโอเปกและนอกกลุ่มในสัปดาห์หน้า ส่งสัญญาณเดินหน้าลดกำลังการผลิตต่อเนื่องใน 2H60 รวมถึงไนจีเลียและลิเบียจะกลับมาลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงปลายปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ติดตามการเคลื่อนไหวของเงินทุนต่างชาติ หลังนักลงทุนกลุ่มนี้เริ่มปิดสถานะ Short ใน SET50 Index Futures เร่งขึ้น วานนี้ Long สุทธิมากถึง 18,698 สัญญา หากเร่งปิดสถานะต่อเนื่อง จะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยจำกัด Downside และยืนยันรอบการฟื้นตัว
กลยุทธ์ การลงทุน “ถือพอร์ตที่สะสมมาก่อนหน้านี้ และเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่ผลการดำเนินงานใน 1Q60 เติบโตเด่น” เป็นทางเลือกในรอบการฟื้นตัวครั้งนี้
Daily Pick
1. สะสม SCB : ราคาปิด 157.00 บาท ราคาเหมาะสม 169.00 บาท
a) จะขึ้น XD เงินปันผล 2H59 หุ้นละ 4.00 บาท ในวันที่ 24 เม.ย. คิดเป็น Dividend Yield 2.5%
b) มีปัจจัยบวกรออยู่ โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนเรื่องการขายหุ้น SCB LIFE ให้กับพันธมิตรต่างชาติ ในเดือน เม.ย. โดยมีผู้สนใจเสนอซื้อได้แก่ AIA, Manulife, Prudential และ FWD Group และประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะมีกำไรพิเศษสูงถึง 3.5 หมื่นล้านบาท หรือ ราว 10 บาทต่อหุ้น
c) คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโต +19% yoy เป็น 5.6 หมื่นล้านบาท จากสินเชื่อที่กลับมาขยายตัวในทิศทางเดียวกับการเติบโตของเศรษฐกิจ ขณะที่คุณภาพของสินทรัพย์ที่ดีขึ้น จะช่วยลดแรงกดดันเรื่องการกันสำรองให้ลดลงในปี 2560 โดยมี Coverage Ratio สิ้นปี 2559 ที่ 134.3% เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่ 109.8%
2. เก็งกำไร BANPU : ราคาปิด 19.50 บาท ราคาเหมาะสม 22.20 บาท
a) MBKET คาดว่ากำไรสุทธิ 1Q60 จะเติบโตเด่น yoy และ qoq เนื่องจากเป็นไตรมาสแรกที่จะเห็นบวกเต็มที่จากราคาถ่านหินที่ไต่ระดับขึ้น ตั้งแต่ปลาย 3Q59 ที่ผ่านมา ส่งให้ราคาขายเฉลี่ยเติบโตสูง yoy และเพิ่มขึ้น qoq
b) คงมุมมองเชิงบวกต่อราคาถ่านหินในปี 2560 ที่คาดว่าจะมีทิศทางไต่ระดับขึ้น หลังจีนแสดงจุดยืนชัดเจนในการควบคุมปริมาณ Supply ถ่านหินในประเทศ เพื่อที่จะรักษาระดับราคาถ่านหินให้อยู่ในช่วง US$73-83 / ตัน
c) คาดผลประกอบการปี 2560 เติบโตสูงถึง +309% yoy เป็น 9,116 ล้านบาท เนื่องจากจะได้ประโยชน์เต็มที่จากราคาถ่านหินเฉลี่ยในปี 2560 ที่เพิ่มขึ้น ราว 10-15% yoy เป็น US$75.00/ตัน และได้ทำสัญญาซื้อขายถ่านหินของอินโดนีเซียในปี 2560 ไปแล้ว 61% จึงเชื่อว่ามี Downside Risk ของประมาณการกำไรค่อนข้างจำกัด
ข่าวเด่น