ส่งออกเดือนก.พ. ติดลบ 2.8% ครั้งแรกในรอบ 4 เดือน แจงฐานส่งออกปี 59 อยู่ระดับสูง มั่นใจแนวโน้มทั้งปียังขยายตัวดีต่อเนื่อง
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา มีมูลค่า 18,470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือติดลบ 2.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นการกลับมาติดลบครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากฐานการส่งออกในเดือนก.พ. 59 นั้น อยู่ในระดับสูง จากการส่งออกทองคำ และสินค้ากลุ่มอากาศยาน แต่ปี 60 นี้ไม่มีการส่งออก อย่างไรก็ดี หากหักสินค้าทั้ง 2 รายการนี้ออกไป จะทำให้การส่งออกในเดือนก.พ. ขยายตัวเป็นบวกถึง 8.5% จึงถือว่าเป็นปัจจัยที่มากระทบเป็นการชั่วคราว
ทั้งนี้ เมื่อรวมช่วง 2 เดือนแรกของปี ยังมีมูลค่าการส่งออก 35,569 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.5% ขณะที่ การนำเข้าเดือนก.พ.มีมูลค่า 16,860 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.4% ส่งผลให้ยังเกินดุลการค้า 1,610 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งขณะนี้ การส่งออกของไทย กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ตามเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะสหรัฐ ที่เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น สอดคล้องกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เช่นเดียวกับ เศรษฐกิจจีนที่มีโอกาสขยายตัวได้ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยการส่งออกไปตลาดจีน ขยายตัวถึง31.1% สูงสุดในรอบ 4 ปี รวมทั้งการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว 13.9% จากยางพารา กุ้งสดแช่แข็งและแปรรูป และข้าว เป็นต้น
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังมั่นใจว่าการส่งออกในปีนี้ จะขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหากส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละ 19,052 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การส่งออกจะขยายตัวได้ 5% ตามเป้าหมายของรัฐบาล เนื่องจากตลาดหลักที่สำคัญ โดยเฉพาะสหรัฐ ญี่ปุ่นและจีน รวมทั้งยุโรป มีแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความเสี่ยงจากสถานการณ์ความไม่ชัดเจนของนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐ และความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหภาพยุโรป รวมทั้งความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และราคาน้ำมัน ซึ่งเบื้องต้น มั่นใจว่าการส่งออกในปีนี้ จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 3% หรือมีมูลค่า เฉลี่ยเดือนละ 18,500-18,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐแน่นอน
ข่าวเด่น